+++ กรณีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ระบุว่ากฎหมายลูกอาจเสร็จไม่ทันกรอบเวลา ทำให้การเลือกตั้งเลื่อนไปกลางปี2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ชี้แจงว่า ตามขั้นตอน 1.มีรัฐธรรมนูญ 2.การทำกฎหมายลูก มีกรอบเวลาอยู่แล้ว ถ้าทำเกินเวลาแสดงว่าทำไม่ทัน ถ้าทำเสร็จเร็วก็คือทำทัน และขั้นตอนเตรียมการเลือกตั้ง มีการหาเสียงและเลือกตั้งใช้เวลา 150 วัน และมาสู่ขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาลอีก 90 วัน ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอด การเลือกตั้งก็เป็นไปตามขั้นตอน พรรคต้องมีการประชุมพรรค ตรวจสอบสมาชิกพรรค หาเสียง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปี 2560 ถือเป็นปีแห่งเดินหน้าสู่ยุทธศาสตร์ชาติและเตรียมการปฏิรูป ซึ่งอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่มีการร่างไว้ในระยะแรกเพื่อให้ได้เค้าโครง หลังจากนี้ รัฐบาลต้องสร้างการรับรู้และกระบวนการมีส่วนร่วม ในยุทธศาสตร์ชาติที่เป็นกรอบใหญ่ และมีเรื่องการปฏิรูปเป็นกรอบย่อย 138 กิจกรรม 37 วาระ ซึ่งหลายอย่างทำไปแล้วก็จะทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งเรื่องการปรองดองด้วย เพื่อจะเดินหน้าเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนมากขึ้น
+++นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. คนที่ 2 ยืนยัน สนช.ไม่มีเจตนายื้อหรือเลื่อนการเลือกตั้ง แต่สิ่งที่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่1 ระบุว่าอาจจะต้องเลื่อนเลือกตั้งออกไปเป็นกลางปี 2561 เป็นการอธิบายเงื่อนเวลาตามโรดแมปแต่ละขั้นตอนว่า หากใช้เพดานเวลาสูงสุด เช่น กรธ.ใช้เวลาร่างกฎหมายลูก 8 เดือน สนช.พิจารณากฎหมายลูก 2 เดือน และกกต.เตรียมการเลือกตั้ง 150 วัน จะไม่สามารถเลือกตั้งได้ทันปลายปี 2560 อาจจะต้องเลื่อนไปเป็นปี 2561 ขึ้นอยู่กับกรธ.จะส่งกฎหมายลูก 4 ฉบับ มาให้สนช.พิจารณาได้เร็วแค่ไหน หากส่งมาทั้งหมดได้เร็วเช่น ภายใน 160 วัน คาดว่า สนช.จะพิจารณาเสร็จได้ทันภายใน 60 วัน ก็น่าจะจัดการเลือกตั้งได้ทันปลายปีนี้ เพราะสนช.ได้เตรียมศึกษาข้อมูลกฎหมายลูกฉบับต่างๆไว้ล่วงหน้าแล้ว คงใช้เวลาพิจารณาไม่นาน การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2560 หรือไม่ คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคสช.เป็นสำคัญ
+++นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้วิป 3 ฝ่ายคือ สนช. สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และคณะรัฐมนตรี(ครม.) ประสานกันตลอดเวลาเรื่องการพิจารณากฎหมายว่า จะเร่งผลักดันกฎหมายฉบับใดก่อนหรือหลัง ส่วนแนวโน้มที่สนช.จะแก้ไขหลักการเนื้อหาในกฎหมายลูกและต้องตั้งกรรมาธิการร่วม จนอาจกระทบต่อเงื่อนเวลาการเลือกตั้งได้ คิดว่าคงเกิดขึ้นยากเพราะขณะนี้กรธ.ได้ขอความเห็นเกี่ยวกับเนื้อหากฎหมายลูกมายังสนช. ซึ่งสนช.ได้เสนอแนะความเห็นไปแล้ว เชื่อว่ากรธ.จะนำไปพิจารณาร่วมกับความเห็นจากหน่วยงานต่างๆเพื่อให้การร่างกฎหมายลูกออกมาตรงความต้องการของทุกฝ่าย
+++พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เร่งรัดคดีและติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุลักทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ศาลอาญา เหตุเกิดที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า ได้สอบผู้เสียหายไป 2 ปาก พบว่า ทรัพย์สินสูญหาย เช่น สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น สร้อยข้อมือหนัก 1 สลึง 1 เส้น และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณ 40,000 บาท ผู้ต้องสงสัยเป็นคนที่เข้า-ออกคุ้นเคย มีไม่ต่ำกว่า 1 คน อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน แต่พบว่าเดินทางไปต่างจังหวัด ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดกลัวจะกระทบกับสำนวน ต่อมามีผู้เสียหายอีก 2 คน ที่ทำงานบนชั้น 9 ของศาลอาญา เดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติม พร้อมให้การว่าหลังจากหยุดยาวเพิ่งกลับมาทำงาน เมื่อเข้าไปทำงานพบว่าลิ้นชักถูกงัด มีเงินสดหายไปรวมกันประมาณ 4,000 บาท และยังมีเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกหายไปจำนวนหนึ่ง
+++นายสุภัทร์ สุทธิมนัส อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า ขณะนี้ทราบเวลาแล้วว่าคนร้ายเข้ามากี่โมงและช่วงเวลาใดอยู่จุดไหน จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด โดยชุดหนึ่งเป็นคณะกรรมการ จะประสานงานสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในด้านการให้ข้อมูลเกี่ยวกับคีย์การ์ดที่คนร้ายใช้เข้าออก หรือข้อมูลอื่นๆ ส่วนคณะกรรมการอีกชุด จะตรวจสอบเรื่องความหละหลวมของระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมด ทั้งนี้ หากการสอบสวนชัดเจนว่าคนร้ายเป็นคนในจะต้องตั้งกรรมการสอบทางวินัยและต้องดำเนินคดีอาญา แต่ยังไม่ยืนยันว่าคนร้ายเป็นคนในหรือคนนอก
+++พลตำรวจตรีปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ วันที่ 29 ธันวาคม 2559 – 3 มกราคม 2560 ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก จำนวน 6 แสน 69,037 รายทั่วประเทศ 3 ข้อหาที่มีการกระทำผิดมากที่สุด คือ ไม่มีใบอนุญาตขับขี่, ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขณะที่ การจับกุมผู้ขับขี่ขณะมึนเมาสุรา ประมาณ 10,000 ราย ลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงการบังคับใช้กฎหมายมีความเข้มงวดมากขึ้น แต่พบ สถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น เนื่องจากประชาชนทยอยเดินทางทำให้การจราจรไม่ติดขัด ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้มากขึ้น จึงเกิดอุบัติเหตุตามมา สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการใช้ความเร็ว และความประมาท หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะวิเคราะห์สาเหตุทั้งหมด เพื่อหามาตรการป้องกันช่วงวันหยุดยาวครั้งต่อไป
+++นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 มกราคม จะประชุมคณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว (นบข.) เพื่อขออนุมัติกรอบการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่คงเหลืออยู่ประมาณ 8 ล้านตัน เนื่องจากช่วงนี้ได้ผ่านต้นฤดูกาลเพาะปลูกมาพอสมควร ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรในกลุ่มธัญพืช เริ่มปรับตัวสูงขึ้นแล้ว จึงนับเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการระบายข้าว สำหรับภาพรวมการส่งออกข้าวในปี 2559 สามารถส่งออกข้าวทั้งสิ้น 9.6 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท และปี 2560 ตั้งเป้าว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 9.5 ล้านตัน
+++ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนธันวาคม 2559 ดัชนี ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 49.5 มาอยู่ที่ระดับ 50.3 ซึ่งเป็นการปรับดีขึ้นตามองค์ประกอบด้านคำสั่งซื้อ การจ้างงาน และผลประกอบการของผู้ประกอบการในภาคที่ไม่ใช่ภาคการผลิต โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มโรงแรมและภัตตาคาร และกลุ่มการค้า ที่ได้รับผลดีจากจานวนนักท่องเที่ยวที่เริ่มทยอยปรับดีขึ้น และมาตรการลดหย่อนภาษีช่วงปลายปีของรัฐมีส่วนช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค รวมถึงการเริ่มกลับมาทำกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดของผู้ประกอบการ หลังจากงดไปในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นเดือนนี้
+++ส่วนดัชนีความเชื่อมั่น ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ประเมินว่าภาวะทางธุรกิจจะดีขึ้นจากปัจจุบัน สะท้อนจากดัชนีฯ ที่อยู่เหนือระดับ 50 และปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ระดับ 54.5 มาอยู่ที่ 56.1 โดยปรับดีขึ้นเกือบทุกองค์ประกอบตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการทั้งในภาคการผลิต และภาคที่ไม่ใช่การผลิต สะท้อนความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านต้นทุนในอนาคตปรับลดลงเล็กน้อย
+++ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ 53.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ ปิดที่ 56.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกจากยอดขายรถยนต์ที่ดีเกินคาดหมายในเดือนธันวาคม ขณะเดียวกันยังได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีกและยาหรือเวชภัณฑ์ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 60.40 จุด ปิดที่ 19,942.16 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 12.92 จุด ปิดที่ 2,270.75 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 47.93 จุด ปิดที่ 5,477.01 จุด
+++ราคาทองคำ ยังเดินหน้าต่อเนื่องจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เมื่อดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)เผยแพร่รายงานการประชุม minutes ประจำเดือนธันวาคม ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,165.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แฟ้มภาพ