คมนาคม คาดม.ค.เสนอนายกฯใช้ม.44เพิ่มโทษลดอุบัติเหตุ/ตรวจสอบการเดินทางลงใต้น้ำท่วมหนัก

05 มกราคม 2560, 08:08น.


+++พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย(กอร.รส.) บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง(กอร.รส.)เปิดเผยว่า ที่ประชุมกอร.รส.สรุปผลการดูแลประชาชนช่วงปีใหม่ เมื่อวันที่ 2 มกราคม มีประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกว่า 73,000 คน เจ้าหน้าที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากนี้จะหารือเรื่องการบริหารจัดการรวมถึงอาหารในช่วงกลางคืน ขอฝากประชาสัมพันธ์ผู้ที่มาในช่วงกลางคืน ขอให้นำอาหารว่างและน้ำดื่มติดตัวมาด้วย เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่อาจดูแลไม่ทั่วถึง  และในอนาคตพื้นที่สนามหลวงฝั่งทิศใต้ กรมศิลปากรจะนำรั้วมากั้นเพื่อเริ่มก่อสร้างพระเมรุมาศในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จึงกังวลว่าเรื่องการบริการที่อาจทำได้ไม่เต็มที่ เบื้องต้นมีแนวคิดปรับแถวให้ยาวไปจนถึงหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ แต่จะต้องหารือกันต่อไป



+++นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จะหารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการล้อมรั้วพื้นที่ จัดสร้างพระเมรุมาศ อย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนนี้ เบื้องต้น อาจจะยังไม่ล้อมจนเต็มพื้นที่ทั้งบริเวณฝั่งทิศใต้ แต่จะทยอยดำเนินการในพื้นที่จะต้องใช้จัดสร้างก่อนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะเดินทางมาถวายสัก การะพระบรมศพ สำหรับความคืบหน้าการจัดสร้างเครื่องประกอบพระเมรุมาศ เจ้าหน้าที่ช่างสิบหมู่ ดำเนินการหล่อหุ่นต้นแบบประติมากรรมตามคติไตรภูมิเขาพระสุเมรุ ก่อนที่จะนำมาหล่อรูปจริงที่โรงขยายแบบท้องสนามหลวง  ส่วนการจัดสร้างพระโกศจันทน์ เจ้าหน้าที่ ได้เริ่มดำเนินการขยายลายแบบ 1 ต่อ 1 ใช้ไม้จันทน์ที่ได้รับจากกรมอุทยานฯ ซึ่งการทำงานทุก ๆ ด้าน จะระดมช่างฝีมือจากทุกส่วนงาน มาร่วมดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบโดยใช้ความประณีต ตามแบบโบราณราชประเพณีและสมพระเกียรติสูงสุด สัปดาห์หน้า สำนักช่างสิบหมู่จะเปิดให้ประชาชนและช่างฝีมือด้านต่าง ๆ ที่สมัครมาเป็นจิตอาสาช่วยงานได้ทยอยเข้ามาทดสอบฝีมือและช่วยงานที่สามารถดำเนินการได้



+++สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ รายงานจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ยะลา เขต 1 ระบุว่า โรงเรียนในสังกัดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 12 แห่งต้องปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย



+++ที่ จ.ปัตตานี มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 5 อำเภอ คือ มายอ ยะรัง แม่ลาน หนองจิก และพื้นที่รอบนอกของ อ.เมืองปัตตานี นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี แจ้งเตือนให้ทุกอำเภอพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม และประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยให้นายอำเภอจัดแผนช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน



+++นายวสันต์ ไชยทวีวงศ์ รักษาการหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)สงขลา กล่าวว่า มีการอพยพประชาชนหมู่ 1 บ้านแลแบง ต.สะบ้าย้อย จำนวน 43 ครัวเรือน 129 คน ออกจากพื้นที่ สถานการณ์ปรับตัวดีขึ้นระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากฝน หยุดตก ประชาชนเริ่มทยอยขนสิ่งของกลับเข้าบ้านเรือนแล้ว



+++ส่วนที่จ. พัทลุง เดือดร้อนทั้ง11อำเภอ พื้นที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด คือ อ.เมืองพัทลุง อ.ควนขนุน อ.ศรีครินทร์ และ อ.กงหรา



+++ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ฝนตกหนักในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมถนนหลายจุดในพื้นที่ ต.บ่อผุด ตลาดสดดาวซีฟู้ด และถนนสายเลียบหาดเฉวง ย่านแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้การจราจรติดขัด



+++เรื่องของอุบัติเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความสูญเสียจากอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ว่า การแก้ไขปัญหาทั้งหมดต้องอยู่ที่จิตสำนึกของคน ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพราะรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ มีการใช้ มาตรา44 ยึดรถ จับกุม รวมถึงดำเนินคดีกับผู้ที่ขับรถผิดกฎจราจร แต่ก็ยังมีความสูญเสียอยู่ ดังนั้น 3 เดือนต่อจากนี้จนถึงสงกรานต์ จะดำเนินการทุกอย่าง และเมื่อดำเนินการอย่างเข้มงวด อาจจะกระทบกับความสะดวกสบายในการเดินทาง ก็ขอให้ประชาชนอดทน



+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เตรียมเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ใช้มาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ออกคำสั่งหัวหน้า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เพิ่มบทลงโทษแรงขึ้น และออกกฎหมายเอาผิดกับผู้ขับรถโดยสารสาธารณะและผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร คาดว่าน่าจะสามารถออกคำสั่งดังกล่าวได้ภายในเดือนมกราคมนี้



+++นายอาคม กล่าวว่า กระทรวงยังได้ออกมาตรการระยะเร่งด่วน รถตู้ทุกคันจะต้องติดตั้งระบบจีพีเอสให้เสร็จก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2560 จากเดิมที่กำหนดสิ้นปี 2560 ติดตามสภาพความพร้อมของรถตู้  กรมการขนส่งทางบก จะจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่ในการตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถตู้ และสภาพร่างกายของคนขับ หากรถหรือคนขับไม่พร้อม เจ้าหน้าที่มีสิทธิพักการเดินรถทันที ทั้งนี้ รถตู้ทุกคันทั่วประเทศจะต้องเข้ามาจอด ณ จุดจอดในสถานีขนส่งทั้งหมด ไม่ให้มีการไปวิ่งรับคนนอกสถานีขนส่งการจำกัดชั่วโมงของผู้ขับขี่รถตู้ จะต้องไม่เกิน 8 ชั่วโมง (ชม.) ต่อการพัก 10 ชั่วโมง ต่อไปผู้ขับขี่รถตู้จะ ต้องมีสมุดบันทึกชั่วโมงการขับขี่ หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามีการขับขี่เกินชั่วโมง ที่กำหนด มีสิทธิเปลี่ยนตัวผู้ขับขี่ได้ทันที



+++มาตรการในระยะยาว กระทรวงจะทำการพัฒนาระบบการขับขี่และการเดินรถสาธารณะทั้งระบบ โดยในส่วนของใบอนุญาตเดินรถตู้ ที่จะเริ่มทยอยหมดอายุตั้งแต่ปี 2562 และจะครบทุกคันในปี 2564  กระทรวงมีแผนที่จะไม่ต่อใบอนุญาตรถตู้ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาให้มีการนำรถโดยสารสาธารณะขนาดกลาง (ไมโครบัส) จำนวน 20 ที่นั่ง มาใช้แทนรถตู้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่า โดยรัฐบาลจะมีมาตรการทางการเงินและการคลังออกมาสนับสนุน เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนมาใช้รถไมโครบัสมากขึ้น ทั้งนี้ ในอนาคตระบบขนส่งสาธารณะในประเทศไทยจะดีขึ้น โดยเฉพาะระบบรางต่างๆ ที่จะครอบคลุมในต่างจังหวัดมากขึ้น ต่อไปการเดินทางอาจใช้ระบบรางเป็นหลักและเชื่อมต่อระบบขนส่งอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว หรือระบบขนส่งที่มีความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนได้ดีมากยิ่งขึ้น และในวันนี้ ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน(ศปถ.) แถลงวันสุดท้ายในช่วง7วันระวังอันตราย



+++ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบร่างพ.ร.บ.จราจรทางบก เพิ่มบทลงโทษหนักขึ้น เพิ่มมาตรการบังคับผู้ขับขี่ที่ไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่ง กำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีหน้าที่ออกหนังสือแจ้งเตือนผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถให้มาชำระค่าปรับภายใน 15 วัน  หากยังไม่ปฏิบัติให้ชะลอการรับชำระภาษีประจำปีไว้ก่อน และให้นายทะเบียนมีอำนาจยึดหรือพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของบุคคลนั้น เพิ่มอัตราโทษในความผิดฐานแข่งรถในทางโดยมิได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 6,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  และให้ศาลสั่งพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ (เดิมจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท) แก้ไขเพิ่มเติมอัตราโทษในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอื่นๆ เป็นจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 10,000 – 20,000  บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่มีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาต  และเพิ่มมาตรการยึดรถในชั้นศาล (ไม่เกิน 7 วัน) ด้วย (เดิมจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 – 20,000  บาท)  หากกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ จำคุก 1 – 5 ปี  ปรับ 20,000 – 100,000 บาท  พักใช้ใบอนุญาต ไม่น้อยกว่า 1 ปี  หรือเพิกถอนใบอนุญาต  หากกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส จำคุก 2 – 6 ปี  ปรับ 40,000 – 120,000 บาท  พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 2 ปี  หรือเพิกถอนใบอนุญาต และ หากกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 3 – 10 ปี  ปรับ 60,000 – 200,000 บาท  และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่



แฟ้มภาพ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X