+++นายเมฟเลิต ชาวูโชลู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี เปิดเผยว่า ทางการตุรกี สามารถระบุตัวตนคนร้ายก่อเหตุกราดยิงที่ไนท์คลับในนครอิสตันบูลช่วงการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ได้แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผยชื่อคนร้าย รวมถึงไม่มีการให้รายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติม กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส อ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับเป็นครั้งแรกที่กลุ่มไอเอสประกาศตัวว่า เป็นผู้บงการก่อเหตุโจมตีครั้งใหญ่ในตุรกี
+++หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ของสหรัฐฯรายงานว่าประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกี แถลงว่า การที่บอกว่าตุรกียอมจำนนต่อกลุ่มก่อการร้ายร้ายเท่ากับพูดว่าตุรกีเข้าข้างกลุ่มก่อการร้ายและองค์กรก่อการร้ายเสียเอง แม้ว่าจะเริ่มต้นปี 2560 ด้วยเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลด แต่รัฐบาลและประชาชนตุรกีคาดหวังว่า จะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นตลอดปีนี้ ผู้นำตุรกี กล่าวถึงเหตุโจมตีไนต์คลับในเมืองอิสตันบูลว่าคนร้ายมุ่งจะให้พลเมืองตุรกีเกิดความแตกแยกกันเอง แต่รัฐบาลและประชาชนตุรกีจะไม่ยอมตกหลุมพรางของกลุ่มผู้ประสงค์ร้าย ผู้นำตุรกี เพิ่มเติมว่า การแสดงให้ผู้คนทั่วโลกเข้าใจว่า ตุรกี หนึ่งในแกนนำในการปราบปรามกลุ่มไอเอสเป็นพวกเดียวกับกลุ่มไอเอสเสียเองคือความประสงค์ที่กลุ่มผู้ไม่หวังดีต้องการ
+++ ผู้นำตุรกี แถลงเรื่องนี้ในกรุงอังการา นับเป็นการแถลงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีสถานบันเทิงในเมืองอิสตันบูล ในคืนฉลองวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับศักราชใหม่ มีคนเสียชีวิต 39 ศพ ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติและมีผู้บาดเจ็บราว 70 คน
+++ด้านนายโอเมอร์ เซลิค รัฐมนตรีกิจการสหภาพยุโรปของตุรกี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายก่อเหตุแบบมืออาชีพ คาดว่าคนร้ายอาจจะเคยฝึกซ้อมในตะวันออกกลางและรูปแบบการโจมตีมีลักษณะคล้ายกับเหตุโจมตีโรงมหรสพบาตาคลองและที่ทำการนิตยสารชาร์ลีเอ็บโด ในกรุงปารีส ฝรั่งเศสเมื่อปลายปี 2558
+++รอยเตอร์ รายงานอ้างตำรวจอิตาลีว่าอาวุธปืนที่นายอานิส อัมรี ผู้ลี้ภัยชาวตูนีเซียวัย 24 ปีกราดยิงใส่ตำรวจในเมืองมิลาน เป็นกระบอกเดียวกับที่คนร้ายใช้ยิงคนขับรถบรรทุก ก่อนแย่งรถขับพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาสกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เมื่อเดือนที่แล้ว และนายอัมรี ถูกตำรวจอิตาลี วิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตในย่านเซสโต ซาน โจวานนี่ เมืองมิลาน เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมปีก่อน ตำรวจอิตาลี ระบุในแถลงการณ์ว่าผู้เชี่ยวชาญได้เปรียบเทียบปลอกกระสุนจากปืนของคนร้ายที่พบในจุดเกิดเหตุทั้งในย่านเซสโตและที่ตำรวจเยอรมนี พบปรากฏชัดเจนโดยปราศจากข้อสงสัยว่าใช้ยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน
+++รอยเตอร์ รายงานอ้างสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนว่าชายคนหนึ่งในมณฑลกวางสี ทางภาคใต้ของจีนใช้มีดแทงไล่แทงเด็กๆบาดเจ็บ 11 คนที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเมืองผิงเสียง นับเป็นเหตุใช้มีดแทงคนจำนวนมากครั้งล่าสุดที่เกิดในประเทศจีน คดีอาญาร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้นน้อยมากในจีน เมื่อเปรียบเทียบกับอีกหลายประเทศ แต่ในช่วง 2-3 ปี เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดและขวานไล่แทงและฟันคนเสียชีวิตและบาดเจ็บมาหลายครั้ง สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีเพิ่มเติมว่าชายดังกล่าวปีนกำแพงโรงเรียนอนุบาลในเมืองผิงเสียง ก่อนใช้มีดไล่แทงเด็กๆดังกล่าว เด็กที่บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่อาการบาดเจ็บของเด็กๆถือว่าไม่ร้ายแรงถึงขั้นเป็นอันตราย คนร้ายถูกตำรวจจับกุมและอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ตำรวจไม่ได้เปิดเผยชื่อจริงของชายดังกล่าว
+++ไปที่มาเลเซีย รอยเตอร์ รายงานอ้างนายข่าน ไมดิน ปิเชย์ หัวหน้าฝ่ายต่อต้านก่อการร้ายสำนักงานตำรวจมาเลเซียว่า ตำรวจจับผู้สนับสนุนรายหนึ่งของกลุ่มไอเอส ฐานวางแผนจะเดินทางเข้าไปก่อเหตุโจมตีในประเทศเมียนมาร์ โดยเฉพาะการสู้รบกับกองกำลังรัฐบาลเมียนมาร์ในรัฐยะไข่ ทางภาคเหนือของเมียนมาร์ ขณะนี้ประเทศเมียนมาร์ เสี่ยงถูกโจมตีโดยสมาชิกกลุ่มไอเอสชาวต่างชาติที่ถูกรับสมัครมาจากเครือข่ายก่อการร้ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนชาวมุสลิมโรฮิงญาที่ถูกขับไล่ออกจากรัฐยะไข่
+++สำหรับผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นชาวอินโดนีเซีย ซึ่งเขาไม่ขอเปิดเผยชื่อ ถูกกักขังอยู่ในมาเลเซียเมื่อเดือนก่อน ตำรวจได้แจ้งข้อหาผู้ต้องสงสัยแล้ว ฐานครอบครองวัสดุหลายชิ้นและธงสัญลักษณ์ของกลุ่มไอเอส คดีนี้มีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุก 7 ปี คาดว่าอาจจะมีกลุ่มนักรบอีกหลายคนที่ทำตามแบบอย่างของผู้ถูกจับรายนี้เพื่อสนับสนุนชาวโรฮิงญา
+++ด้านสหประชาชาติ กล่าวว่า กองกำลังรัฐบาลเมียนมาร์ได้ปราบปรามชาวโรฮิงญานับแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว และคุมเข้มชายแดนในรัฐยะไข่ ใกล้ชายแดนบังกลาเทศ ทำให้ชาวโรฮิงญา 34,000 คนอพยพเข้าไปยังบังกลาเทศ
+++ด้านนักวิเคราะห์หลายคนระบุว่าปัญหาขัดแย้งในรัฐยะไข่เริ่มกลายเป็นประเด็นที่สร้างความสนใจให้กับเครือข่ายกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมในภูมิภาคนี้โดยเฉพาะจากฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอสในตะวันออกกลาง เมื่อปีที่แล้ว กลุ่มไอเอสอ้างก่อเหตุโจมตีมาหลายครั้งหรือถูกสกัดแผนโจมตี ทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์
+++ เว็บไซต์วิกิลีกส์ ขอให้ผู้ดูแลระบบ ส่งเอกสารของรัฐบาลนายบารัค โอบามา มาให้วิกิลีกส์เปิดโปงก่อนที่รัฐบาลใหม่จะเข้ารับตำแหน่งต่อในวันที่ 20มกราคมนี้ พร้อมกับยืนยันว่ารัสเซียไม่ใช่ผู้ปล่อยอีเมลพรรคเดโมแครต วิกิลีกส์ประกาศผ่านทวีตเตอร์ไปถึงผู้แลระบบของรัฐบาลสหรัฐฯว่า โปรดทำสำเนาเอกสารทั้งหมดของรัฐบาลนายโอบามาแล้วส่งมาให้วิกิลีกส์เมื่อใดก็ตามที่สะดวก และขอตั้งเงินรางวัล 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 717,390 บาท) แก่ผู้ให้เบาะแสนำจับหรือเปิดโปงหน่วยงานใดก็ตามของรัฐบาลนายโอบามาที่พยายามทำลายบันทึกสำคัญ
+++ด้านนายจูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์วัย 45 ปี ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ของสหรัฐฯที่สถานทูตเอกวาดอร์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ สถานที่ที่เขาลี้ภัยมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 ยืนยันว่า อีเมลพรรคเดโมแครตหลายพันฉบับที่วิกิลีกส์เผยแพร่ในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งสหรัฐฯ ไม่ได้รับมาจากรัฐบาลรัสเซียหรือหน่วยงานของรัฐ ตามที่มีข่าวว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯสรุปว่าเป็นฝีมือของรัสเซียที่ต้องการช่วยให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันชนะเลือกตั้ง และเมื่อถูกถามว่าเขาคิดว่าการเปิดเผยอีเมลมีส่วนช่วยให้นายทรัมป์ชนะหรือไม่ นายอัสซานจ์ตอบว่าบอกไม่ได้ แต่หากเป็นจริงก็แสดงว่าเนื้อหาอีเมลของนางฮิลลารี คลินตัน และผู้จัดการการหาเสียงของเธอ รวมทั้งประธานพรรคเดโมแครตคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้ง
+++ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างนางนิโชลเล มาร์ติเนส คุณแม่ลูกสอง ซึ่งพบรักและแต่งงานมา 9 ปีกับนายนิค มาร์ติเนส ทหารอเมริกัน ขณะที่ทั้ง 2 คนประจำการอยู่ในฐานทัพสหรัฐฯในกรุงโซล เกาหลีใต้ ว่า ท่ามกลางอากาศหนาวจัดในช่วงนี้ กองทัพเกาหลีใต้และหน่วยทหารสหรัฐฯจัดให้มีการฝึกซ้อมอพยพประชาชนที่ฐานทัพยองซาน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดคือ กรณีเกาหลีใต้ถูกเกาหลีเหนือโจมตีด้วยขีปนาวุธ หลังนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือส่งสาส์นอวยพรประชาชนเกาหลีเหนือในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ว่า เกาหลีเหนือใกล้จะทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลสำเร็จ
+++บรรยากาศการซ้อมอพยพ ดำเนินไปแบบสบายๆ กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯจะอพยพประชาชนทั้งโดยรถบัส เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินทหารจากทุกสารทิศของเกาหลีใต้มุ่งหน้าไปยังจุดสุดท้ายคือเกาะโอกินาวาทางภาคใต้ของญี่ปุ่น
+++สำหรับขั้นตอนการฝึกซ้อมมีดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 คือ การรอฟังคำสั่งกรณีกองทัพแจ้งสถานการณ์ฉุกเฉินให้ประชาชนอพยพ ผู้เข้าร่วมฝึกซ้อมเป็นอาสาสมัคร รวมถึงครอบครัวทหารสหรัฐฯที่ประจำอยู่ในกรุงโซลจะรอฟังคำสั่งจากทหารที่คอยให้คำแนะนำขั้นตอนที่ 2 คือจัดเก็บเครื่องใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋า สิ่งของที่เก็บใส่กระเป๋ามีน้ำหนักไม่ควรเกิน 60 ปอนด์ ขั้นตอนที่ 3 คือการลงทะเบียนทั้งคนและสัตว์เลี้ยงที่สามารถนำติดตัวไปยังฐานทัพยงซาน ขั้นตอนที่ 4 คือ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ซี-47 ชีนุก ที่จอดรออพยพประชาชนอยู่ที่ฐานทัพนั้นเพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศให้มากที่สุด ขั้นตอนที่ 5 คืออพยพข้ามแดน มีเฮลิคอปเตอร์หลายลำจอดรออยู่ที่ฐานทัพแคมป์วอกเกอร์สหรัฐฯในเมืองแดกู ลำเลียงผู้อพยพไปยังฐานทัพอากาศเกาหลีใต้ โดยมีเครื่องบินขนส่งรุ่นซี-130 เฮอร์คิวลีส ของกองทัพอากาศสหรัฐฯคอยคุ้มกันบินมุ่งหน้าสู่จุดหมายสุดท้ายคือการบินมุ่งหน้าไปยังเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น
CR:REUTERS