โฆษกรบ.ยืนยันเดินหน้าตามแผนโรดแมป/กรธ.เตรียมเปิดเวทีพิจารณากม.ลูก/กทม.เตรียมจัดระเบียบหาบเร่ 6เขต21จุด

04 มกราคม 2560, 10:09น.


 +++กรณีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระบุ อาจต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็นช่วงกลางปี 2561 คลาดเคลื่อนจากโรดแมปที่วางไว้ประมาณปลายปี 2560 เนื่องจากต้องพิจารณากฎหมายจำนวนมาก รวมถึงร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่มีเวลาค่อนข้างจำกัด พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยังยึดตามโรดแมปเดิมและตารางเวลาเดิม ทั้งหมดเป็นไปตามเดิม



+++พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป อย่างแน่นอน



+++นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานฝ่ายรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า เป็นเพียงความเห็นของ สนช.เท่านั้น ในส่วนของรัฐบาลยังคงเดินตามการทำงานปกติ ยอมรับว่าหลายเรื่องต้องเร่งดำเนินการ เนื่องจากมีการทำกฎหมายลูกในรัฐธรรมนูญด้วย



+++การเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ จะจัดเวทีรับฟังความเห็นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ในพื้นที่ 4 ภูมิภาค เพื่อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น ก่อนส่งให้สนช. พิจารณาในช่วงเดือนที่ 4 หรืออาจะเป็นเดือนที่ 6 ขณะนี้เร่งพิจารณากฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอ สนช.เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้



+++ความคืบหน้าอาการป่วยของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในระหว่างถูกควบคุมตัว เนื่องจากมีอาการไข้และหนาวสั่น เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2559 กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2559 นายจตุพร มีอาการไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัด สีขุ่น เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จึงได้ส่งตัวมารักษาในทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ จากการตรวจของแพทย์โดยละเอียด พบว่าเป็นอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ จึงได้ให้การรักษาพยาบาลและรักษาตามอาการอย่างใกล้ชิด เมื่อวันที่ 2 มกราคม มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการซ้ำอีกครั้ง พบว่าการทำงานของไตกลับมาอยู่ในภาวะปกติและปัสสาวะไม่มีเม็ดเลือดขาวเจือปน อาการไข้ลดลง และอาการทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ และวันที่ 3 มกราคม อาการทั่วไปปกติดี ไม่มีไข้ ลุกเดิน ปฏิบัติภารกิจส่วนตัวได้ตามปกติ ซึ่งในวันนี้ จะใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ตรวจดูว่า มีนิ่วในไตหรือไม่ หากไม่พบอาการผิดปกติจะส่งตัวกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป



+++เรื่องเศรษฐกิจในปีนี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในปีนี้อยากเห็นการลงทุนเพื่อการปฏิรูปประเทศเป็นความร่วมมือระหว่างการลงทุนภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน เพราะรัฐบาลมีเวลาจำกัด ตอนนี้เหลือเวลาเพียง 1 ปี ดังนั้นต้องพยายามทำสิ่งที่ยังค้างอยู่ให้จบเร็วที่สุด นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญต้องวางพื้นฐานให้รัฐบาลใหม่มาใช้ ต้องวางไม่ให้เกิดการรื้อทิ้ง เพราะพอเปลี่ยนรัฐบาล นโยบายของรัฐบาลเก่าถูกรื้อทิ้งทั้งหมด ต้องก้าวข้ามตรงนี้ไปให้ได้ ต้องสร้างความเข้มแข็งประเทศ การลงทุนในไทย สามารถทำได้ เพราะไทยมีสภาพคล่องเหลืออยู่มาก มีดุลบัญชีเดินสะพัดทุกเดือน ถือเป็นจังหวะของการลงทุน เพื่อสร้างรากฐาน นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า เคยหวังไว้ว่าเมื่อปี 2559 หากเอกชนลงทุนเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 4 ขยายตัวกว่าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินไว้ร้อยละ 3.3 โดยในปีนี้  หวังว่า หากเอกชนลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจโตถึงร้อยละ 4 โตกว่าที่ สศค.คาดการณ์ว่าจะโตร้อยละ 3.4



+++การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยเพื่อคืนทางเท้าให้แก่ประชาชน นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า การจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย กทม. ดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน มีการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย ยกเลิกการค้าไปแล้วรวม 235 จุดในพื้นที่ 50 เขต โดยมีผู้ค้ารวม 20,980 ราย สำหรับในปีนี้ กทม.จัดระเบียบทางเท้าต่อเนื่องในพื้นที่ต่าง ๆ โดยกำหนดแผนการจัดระเบียบจะยกเลิกทางเท้าใน 6 เขต  21 จุด จำนวนผู้ค้ารวม 1,963 ราย ในวันที่ 30 ม.ค. ได้แก่  เขตคลองเตย บริเวณถนนพระราม 4 และตลาดลาว รวม 11 จุด มีผู้ค้าทั้งสิ้น 164 ราย  เขตบางนา บริเวณหน้าตลาดอุดมสุข 1 จุด มีผู้ค้าทั้งสิ้น 224 ราย เขตราชเทวี บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และถนนพญาไทบริเวณสะพานหัวช้าง รวม 2 จุด มีผู้ค้าทั้งสิ้น 404 ราย  เขตจตุจักร บริเวณถนนกำแพงเพชร 2, 3 และ 4 ซึ่งเป็นผู้ค้าในจุดผ่อนผัน 2 จุด และนอกจุดผ่อนผัน 1 จุด รวมผู้ค้าทั้งสิ้น 394 ราย เขตบางแค บริเวณหน้าตลาดบางแค ทั้ง 2 ฝั่ง รวม 2 จุดมีผู้ค้าทั้งสิ้น 659 ราย  เขตภาษีเจริญ บริเวณหน้าบ้านพักคนชราบางแค และพื้นที่ฝั่งตรงข้ามรวม 2 จุดมีผู้ค้าทั้งสิ้น 118 ราย



+++คดีอาชญากรรม เจ้าหน้าที่ติดตามนายสมชาย เย็นใจ อายุ 46 ปี เจ้าของแพกุ้งโชคศิริชัย คนร้ายก่อเหตุยิงวัยรุ่นในพื้นที่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร.ต.อ.บัญชา สุขกรง รอง สว.(สอบสวน) สภ.กุยบุรี เปิดเผยว่า จุดเกิดเหตุอยู่ที่ถนนซอยบ้านเขาขวาง ถนนเลียบชายทะเล สายโพธิ์เรียง-ทุ่งน้อย ต.กุยเหนือ ผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกุยบุรี แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่ง 1 คน ทราบชื่อ นายราเชนทร์ ปราดเปรื่อง หรือ ป๊อบ อายุ 19 ปี เป็นหลานชายของผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ มีผู้บาดเจ็บอีก 6 คน อาการสาหัส 3 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ น.ส.ทิพย์สลาลี แกมไทย อายุ 23 ปี ถูกยิงบริเวณใต้ราวนมขวา



+++ต่อมามีรายงานว่า น.ส.ทิพย์สลาลี เสียชีวิต นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และนายสราวุธ แกมไทย อายุ 29 ปี ถูกยิงที่ศีรษะและขา ต่อมานายสราวุธ เสียชีวิต ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 3 คน คือ นายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นายเกรียงไกร แต้ประเสริฐ อายุ 20 ปี และ น.ส.สาวิตรี คีรีนิล อายุ 25 ปี รักษาตัวอยู่ที่ รพ.กุยบุรี สรุปเสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บ 4 คน จากการสอบสวน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 มกราคม นายราเชนทร์ขับรถกระบะติดเครื่องเสียงเปิดเพลงเข้าไปส่งญาติในหมู่บ้านและวิ่งผ่านบ้านพักของนายสมชาย ระหว่างกลับออกจากหมู่บ้าน คาดว่าถูกเรียกให้จอดแล้วจ่อยิง พอเสียงปืนดังขึ้นกลุ่มเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ตามเข้าไปดูก็ถูกยิงเรียงตัวจนนอนบาดเจ็บ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้พาครอบครัวหลบหนีไป



+++ผู้บาดเจ็บให้การว่า เมื่อคืนวันที่ 1 มกราคม นายราเชนทร์ ผู้ตาย และพวก ได้จัดงานเลี้ยงฉลองวันปีใหม่บริเวณที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน โดยเปิดเพลงเสียงดังในหมู่บ้านทำให้เป็นเหตุรำคาญ จนกระทั่ง นายบวร หรือ ตี๋ ศุภสิทธิ์ อายุ 23 ปี หลานชายของนายสมชาย ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ แต่หลังจากตำรวจเดินทางกลับทางกลุ่มวัยรุ่นได้เปิดเพลงเสียงดังอีกและเต้นรำอย่างสนุกสนาน นายบวรจึงเดินเข้าไปพูดคุยเพื่อให้เบาเสียง ทำให้เกิดมีปากเสียงและถูกกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวรุมทำร้าย ทำให้นายสมชาย มาเคลียร์ปัญหาให้กับหลานชาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ เพราะถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์รุนแรง



แฟ้มภาพ    



 



 

ข่าวทั้งหมด

X