รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะทำงานถ่ายโอนอำนาจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯว่านายทรัมป์จะตั้งนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ เป็นผู้แทนการค้าสหรัฐฯในรัฐบาลของเขา ใช้ความรู้และประสบการณ์ของนายไลท์ไฮเซอร์ในฐานะนักเจรจาการค้า เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ด้านเว็บไซต์บริษัทกฏหมายสแคดเดน อาร์ปส์ที่นายไลท์ไฮเซอร์ เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งระบุถึงอัตชีวประวัติของนายไลท์ไฮเซอร์ว่าเขาเคยดำรงตำแหน่งรองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เทียบเท่าตำแหน่งเอกอัครราชทูตในยุครัฐบาลประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เมื่อปีพ.ศ.2524
นอกจากนี้ตลอดช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาเขาทำหน้าที่ตัวแทนให้กับลูกความชาวอเมริกันหลายคนในคดีเกี่ยวกับกับการต่อต้านการทุ่มตลาด หรือกรณีผู้ส่งออกส่งสินค้าไปขายยังอีกประเทศหนึ่งในราคาต่ำกว่าต้นทุน เพื่อผลประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และได้ผลักดันไปสู่การเปิดตลาดต่างชาติหลายแห่ง ในฐานะผู้แทนการค้า นายไลท์ไฮเซอร์จะมีบทบาทสำคัญในการบังคับใช้นโยบายเชิงปกป้องตลาดภายในของสหรัฐฯ อาจจะสร้างความตึงเครียดให้กับประเทศจีนและประเทศคู่ค้าสำคัญรายอื่นๆของสหรัฐฯ แต่นายไลท์ไฮเซอร์จะไม่ได้ทำหน้าที่กำหนดนโยบายการค้าของนายทรัมป์โดยตรง แต่ผู้ที่จะทำหน้าที่นั้นคือนายวิลเบอร์ รอสส์ มหาเศรษฐี ซึ่งนายทรัมป์ตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์คนใหม่ของสหรัฐฯ
ในช่วงการณรงค์หาเสียงเมื่อปีที่แล้ว นายทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะทบทวนข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศใหม่ทั้งหมดเช่น ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(นาฟตา)และจะลงโทษบริษัทเอกชนสหรัฐฯที่ย้ายฐานการผลิตไปยังต่างแดน นับแต่ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน นายทรัมป์ ได้ปกป้องนโยบายเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ เขาทวิตข้อความว่าวิจารณ์รัฐบาลจีนว่า ขนเงินทองและความมั่นคั่งอื่นๆจำนวนมหาศาลออกไปจากสหรัฐฯจากนโยบายการค้าที่ประเทศจีนได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว อีกทั้งไม่ห้ามปรามเกาหลีเหนือไม่ให้ทดลองอาวุธนิวเคลียร์ตลอดช่วงที่ผ่านมา