ว่าที่ปธน.คนใหม่ของสหรัฐฯเผยการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ของสหรัฐฯอาจจะรุนแรงเกินเหตุ

รอยเตอร์รายงานอ้างนายฌอง สไปเซอร์ ว่าที่โฆษกคนใหม่ประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งล่าสุดของรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการสั่งเนรเทศทูตรัสเซีย 35 คนฐานต้องสงสัยเป็นสายลับให้กับรัสเซียอาจจะรุนแรงเกินเหตุ ในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอบีซีของสหรัฐฯ นายสไปเซอร์ กล่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯได้ตั้งข้อสังเกตุเรื่องการทำงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯหลังประธานาธิบดีโอบามาสั่งคว่ำบาตรรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างอิงผลสอบสวนของ 2 หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯว่ารัฐบาลรัสเซียมีส่วนพัวพันกับการโจมตีระบบไซเบอร์ล้วงข้อมูลพรรคเดโมแครตระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว

โอบามายังสั่งปิดที่ทำการ 2 แห่งของทูตรัสเซีย เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียให้รุนแรงมากขึ้น เขากล่าวว่าหนึ่งในคำถามต่างๆที่นายทรัมป์ตั้งข้อสังเกตุไว้ คือกรณีการสั่งขับทูตรัสเซีย 35 คนออกนอกประเทศและปิดที่ทำการทูตรัสเซีย 2 แห่งถือว่าได้สัดส่วนกับข้อสงสัยที่รัฐบาลสหรัฐฯกล่าวหารัสเซียว่าโจมตีทางไซเบอร์ของพรรคเดโมแครตหรือไม่ สำหรับหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯจะรายงานสรุปผลการทำงานให้นายทรัมป์ทราบในสัปดาห์นี้ หลังกลับยังนครนิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนหน้านี้นายทรัมป์กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าเขาคิดว่าไม่ยุติธรรมสำหรับรัสเซีย ถ้ารัฐบาลสหรัฐฯยังไม่มีข้อสรุปอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลรัสเซียอยู่เบื้องหลังการล้วงข้อมูลอีเมลจากพรรคเดโมแครตจริงหรือไม่ อาจจะเป็นคนอื่นทำ ไม่ใช่รัสเซียก็เป็นได้ พร้อมพูดเป็นนัยว่า แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้ในบางเรื่องที่คนอื่นๆไม่รู้ ทุกฝ่ายจึงไม่ควรด่วนสรุป ถ้าหากยังไม่แน่ใจ

เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่าหลังเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ นายทรัมป์จะเปลี่ยนแปลงนโยบายและมาตรการต่างๆของผู้นำคนปัจจุบันหรือไม่ หลังสัมพันธ์สหรัฐฯ-รัสเซียเสื่อมโทรมต่ำสุดนับแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2