คดี ด.ญ.วัย13ปี ถูกฆ่าข่มขืนบนรถไฟ นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลว่า สถานการณ์เหล่านี้เคยมีบทเรียนและเกิดขึ้นมาแล้วจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สะสมมานานแทบทุกพื้นที่เช่น บนรถไฟ ป้ายรถเมล์รถโดยสารประจำทาง รถตู้วินมอเตอร์ไซค์เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะยังไม่ถูกพัฒนา อย่างกรณีเด็ก13 ปีถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงสังคมรับไม่ได้ และครอบครัวคือผู้ที่บอบช้ำที่สุดจากกระทำซึ่งมีการเตรียมการก่อนก่อเหตุ ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเกิดความระแวงห่วงเรื่องความปลอดภัยอย่างแน่นอน
ขณะที่ ท่าที ล่าสุดของผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่เป็นที่น่าพอใจ แม้ผู้ก่อเหตุจะไม่ใช่พนักงานของการรถไฟโดยตรง แต่ก็เป็นบริษัทเอกชนที่การรถไฟฯจ้างมา ดังนั้นผู้ว่าการรถไฟฯควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกและผู้ที่จะเข้ามาดูแลบริหารจัดการแทนควรคัดเลือกคุณสมบัติพนักงานและเข้มงวดอบรมพนักงานให้มีทัศนคติหญิงชายในมิติที่ดีควรตรวจสอบคุณสมบัติของพนักงานบริษัทเอกชนหากพบว่ามีข้อบกพร่องก็ไม่ควรทำสัญญาว่าจ้างต่อที่สำคัญควรมีการปฏิรูประบบปัญหาสังคมที่มีผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน