รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ประสานบขส.-บ.ประกันภัย ช่วยครอบครัวผู้เสียชีวิต –เจ็บจากอุบัติเหตุรุนแรงที่จ.ชลบุรี

02 มกราคม 2560, 19:15น.


การช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรุนแรงบริเวณบริเวณถนนบ้านบึง แกลง จุดเกิดเหตุบ้านหนองขนุน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี  รถตู้โดยสาร ชนกับรถปิคอัพ เกิดไฟไหม้ทั้ง 2 คัน มีผู้เสียชีวิต25 คน บาดเจ็บ2 คน นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง อาการผู้บาดเจ็บว่า ผู้รอดชีวิต1คนจากรถตู้ บาดเจ็บไม่มากนอนพักดูอาการ ผู้รอดชีวิตบอกว่า รู้จักคนที่เดินทางมาด้วยคนเดียว เป็นคนจันทบุรี มาทำงานที่กรุงเทพฯ ผู้โดยสารที่มากับรถตู้ ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารที่รับมาจากจ.จันทบุรี ส่วนผู้รอดชีวิตจากรถปิคอัพทะเบียน 1ฒณ-2483 กทม.มีอาการขาหัก ส่งไปรักษาตัวอีกโรงพยาบาล คนที่เดินทางมาเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เป็นญาติกัน ทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว นั่งในรถส่วนที่เป็นแคป 7 คน และนั่งส่วนท้ายรถ 5 คน



โรงพยาบาลบ้านบึง จ.ชลบุรี เก็บรายละเอียดข้อมูลของศพผู้เสียชีวิตที่ถูกเพลิงไหม้ทั้งหมด จะแยกไว้ว่าศพไหนมากับรถคันไหน  ศพต้องพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เพราะว่าไหม้ดำหมดทุกศพ แต่ก็พอจะมองออกบ้างว่าเป็นหญิงหรือชาย  ส่วนที่คิวท่ารถที่จ.จันทบุรี มีกล้องซีซีทีวี จะสามารถตรวจสอบขอข้อมูลดูภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปดำเนินการ  เนื่องจากต้องพิสูจน์ให้ทราบถึงสาเหตุของอุบัติเหตุด้วย ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 25 คน  เป็นผู้โดยสาร 13 คน + คนขับ 1 คน รวมเป็น 14 คน  ส่วนรถปิคอัพ นั่งมา 11 คน



ส่วนคนขับอายุ 64 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า คนขับที่มีอายุมาก ต้องมาต่อทุก 3 ปี ต้องมีการตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพ 3ปี/ครั้ง  ดูความสมบูรณ์ของร่างกายว่าสามารถขับต่อได้หรือไม่ ก่อนที่จะต่อใบอนุญาตขับขี่จะทดสอบ ไม่ได้มีการกำหนดว่า อายุมากน้อยเพียงใดถึงจะห้ามขับขี่ แต่ยืนยันเราจะตรวจสอบก่อนดูที่ความพร้อมสมบูรณ์ของร่างกาย ถ้ามีสุขภาพดี ผ่านการทดสอบก็จะต่อใบอนุญาต ทั้งนี้ ถ้าสุขภาพเปลี่ยน นายทะเบียนมีอำนาจเรียกมาทดสอบ หากคุณสมบัติไม่ผ่านจะยกเลิกใบอนุญาต ทั้งนี้ นายทะเบียน จะทราบเนื่องจากจะมีการสุ่มตรวจสอบตลอด    



สาเหตุที่เกิดขึ้น ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้มอบหมายให้ลงพื้นที่มาติดตามเหตุ ได้มาพูดคุยกับบริษัทขนส่งจำกัด ให้มาดูแลรับผิดชอบ เบื้องต้น ตามกรมธรรม์จ่ายผู้เสียชีวิตรายละ 3แสนบาท บขส. ให้รถทุกคันทำประกันภัยไม่น้อยกว่าสองแสนบาท ตรวจสอบประกันยังไม่หมดอายุ  ให้บริษัทประกันภัยมารวบรวมข้อมูล ให้บขส.ประสานงานกับครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อช่วยเหลือตามขั้นตอน       



แฟ้มภาพ



CR:FB กรมการขนส่งทางบก

ข่าวทั้งหมด

X