ประเทศในยุโรปเพิ่มมาตรการ รปภ. เข้มข้นช่วงเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

31 ธันวาคม 2559, 12:28น.


ประเทศต่างๆ ในยุโรปได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลังกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS เพิ่งก่อเหตุขับรถบรรทุกโจมตีตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน โดยที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ตำรวจได้นำแท่งคอนกรีตวางตามจุดต่างๆ ในใจกลางเมือง ขนาบด้วยรถหุ้มเกราะ พร้อมเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ 1,700 นายรักษาความปลอดภัยทั่วกรุงเบอร์ลิน ส่วนที่เมืองโคโลญจน์ ตำรวจได้ติดตั้งกล้องวิดีโอใหม่ เพื่อเฝ้าสังเกตบริเวณสถานีรถไฟ หลังเกิดเหตุคนร้ายวิ่งราวและทำร้ายสตรีหลายร้อยคนบริเวณด้านนอกสถานีรถไฟ ขณะที่เมืองแฟรงเฟิร์ต ซึ่งเป็นที่ตั้งของธนาคารกลางยุโรปและสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 600 นายได้ออกตรวจตามพื้นที่ในวันนี้



ส่วนที่กรุงปารีส ของฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างสูงในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น หอไอเฟล ประตูชัย พิพิธภัณฑ์ลูฟ ตลอดจนบริเวณ ซึ่งจะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ถนนช็องเซลิเซ่  คาดว่า จะเป็นที่รวมตัวของผู้คนราว 600,000 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 90,000 นาย และทหารอีก 7,000 นายจะลงพื้นที่ทั่วประเทศในวันนี้ โดยเฉพาะในเขตมหานครปารีส ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารราว 10,300 นาย ออกตรวจและคัดกรองผู้ที่จะเข้าไปใกล้เขตถนนดังกล่าว หลังจากตำรวจฝรั่งเศสสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยใกล้เมืองตูลูสวางแผนโจมตีในวันส่งท้ายปี ทำให้นายบรูโน เลอ รูซ์ รมว.กิจการภายในฝรั่งเศส ให้ข้อสังเกตภัยคุกคามการก่อการร้ายที่ยังคงมีอยู่สูงในฝรั่งเศส



ที่เมืองมิลาน อิตาลี ตำรวจได้ยิงชายคนหนึ่งเสียชีวิต และตั้งด่านตรวจค้นรอบจัตุรัสสำคัญๆ ทั้งยังมีคำสั่งห้ามรถบรรทุกเข้าไปในใจกลางกรุงโรมและเมืองเนเปิลส์



ขณะที่ กรุงแมดริด ประเทศสเปน ได้จัดกำลังตำรวจชุดพิเศษ 1,600 นายลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดปีใหม่ พร้อมสร้างแนวคอนกรีตควบคุมการเข้าออกจุดต่างๆ ทั้งยังจำกัดจำนวนผู้คนไว้ที่ 25,000 คนในการเดินทางเข้าไปเฉลิมฉลองในบริเวณจัตุรัส “เปอร์ตา เดล โซล” ใจกลางเมืองหลวง



และที่ยูเครน ตำรวจได้จับกุมชายต้องสงสัยในเมืองโอเดสซา ซึ่งวางแผนเลียนแบบการโจมตีเช่นที่เกิดขึ้นในกรุงเบอร์ลิน



ทีมต่างประเทศ



CR:REUTERS

ข่าวทั้งหมด

X