รมช.คมนาคมส่งคนกลับบ้านที่กรมการขนส่งทางบก เน้นความปลอดภัย-ไม่ตกค้าง

การจัดกิจกรรมส่งคนกลับบ้านช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ภายใต้โครงการรณรงค์ป้องกันและ ลดอุบัติเหตุทางถนนของกรมการขนส่งทางบก  นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน พร้อมตรวจเยี่ยมการ ปฏิบัติงานของผู้ตรวจการขนส่งทางบก ในเรื่องความพร้อมของพนักงานขับรถ เช่น ตรวจวัดแอลกอฮอล์ พนักงานขับรถ และให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยรวมถึงมอบของที่ระลึกแก่ประชาชนที่มารอขึ้นรถเดินทางไปภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งเปิดเป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารกรณีพิเศษ ตั้งแต่วันที่28-30ธันวาคม และรองรับประชาชนกลับเข้ากรุงเทพ ระหว่างวันที่2-6มกราคม2560 เพื่อกระจายความแออัดของสถานีขนส่งหมอชิต

นายพิชิต เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกดำเนินงานตอบสนองกระทรวงคมนาคม โดยเฉพาะความปลอดภัย ที่มุ่งให้ความสำคัญในการอำนวยความสะดวกและเสริมสร้างความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ตลอดจนการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงต่างๆซึ่งถือว่าเป็นไปตามยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558 -2560  ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการอำนวยความสะดวกและรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ รวมถึงเสริมสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารและพนักงานขับรถในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือ "happiness for all ความสุขทั่วไทยส่งความปลอดภัยให้ทุกคน " จึงขอเชิญชวนประชาชนขับขี่ปลอดภัยหรือใช้รถใช้ถนนด้วยความสำนึก มีน้ำใจ วินัย และเคารพต่อผู้อื่นที่ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน พร้อม ยืนยันว่า กรมการขนส่งทางบก บริษัทขนส่งจำกัด(บขส.) ขนส่งมวลชนกรุงเทพ( ขสมก. )จะคอยบริการประชาชน ไม่ให้มีผู้ตกค้าง

ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึง การอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ว่า เทศกาลปีใหม่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาพร้อมกัน รัฐบาลได้กำชับให้ทุกภาคที่เกี่ยวข้องร่วมกันลดและป้องกันอุบัติเหตุ อำนวยความสะดวก และบริหารการจราจร โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้บูรณาการร่วมกับทหาร ตำรวจ หน่วยงานท้องถิ่น อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร เช่น

จัดตั้งชุดปฏิบัติการประจำทุกสถานีขนส่งผู้โดยสาร 121 แห่ง ศูนย์บริการร่วมคมนาคมอีก 14 จุด เพื่อตรวจความพร้อมของรถ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตรวจพนักงานประจำรถทุกคันและตรวจจับความเร็วในเส้นทางต่างๆ,จัดรถโดยสารให้เพียงพอทั้งไปและกลับ,ตรวจตราสถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดพักรถต่างๆเพื่อป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน รวมถึงจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียนผ่านหมายเลข 1584 ทั้งที่กรมการขนส่งทางบกและสถานีขนส่งทุกจังหวัด  พร้อมประสาน สหกรณ์แท็กซี่ ให้จัดเตรียมรถแท็กซี่ให้เพียงพอเพื่อบริการประชาชนและควบคุมการให้บริการ ห้ามเรียกเก็บค่าโดยสารเกินเด็ดขาด

จากการสำรวจรถโดยสารสาธารณะเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม จำนวน 10,357คัน มีปัญหาเรื่องกระจก เบาะที่นั่ง ระบบไฟภายในตัวรถรวม 108คัน  ส่วนการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ โดยสารจำนวน 10,693ราย พบว่าฝ่าฝืนไม่พกใบอนุญาตขับรถและทำผิดเกี่ยวกับสมุดประจำรถ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ทำการเปรียบเทียบปรับและสั่งแก้ไขปัญหาทุกรายแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่ามีประชาชนติดต่อขอความช่วยเหลือจำนวนกว่า 2,000ราย เช่น การสอบถามตารางเดินรถและอัตราค่าโดยสาร และมีการร้องเรียนการให้บริการรถโดยสารสาธารณะด้วย  โดยกรมการขนส่งทางบกจะเรียกตัวผู้ที่กระทำความผิดมาสอบสวนและดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป พร้อมกำชับผู้ประกอบการและสำนักงานขนส่งทั่วประเทศนำเรื่องร้องเรียนไปปรับปรุงทันที

ส่วนนายประสิทธิ์ ดวงคุณ 1ในผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรปราการเพื่อขึ้นรถของบริษัทขนส่งจำกัด หรือ (บขส.)ที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อจะเดินทางไปยังจังหวัดนครพนม รู้สึกว่าการเปิดสถานีขนส่งกรณีพิเศษทำให้สะดวกสบายมากขึ้น เนื่องจากสามารถนั่งบีทีเอสมาถึงกรมการขนส่งบกได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะตกรถหรือไม่  และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ มาขึ้นรถกลับภูมิลำเนา มองว่า พื้นที่โล่ง ปลอดโปร่ง ไม่แออัดทั้งด้านประชาชนและการจราจรเหมือนสถานีขนส่งหมอชิตด้วย