สรุปข่าว:ปธ.กรธ.เดินหน้าตามโรดแมปรัฐบาลร่างกม.ลูก/ช็อบช่วยชาติกระตุ้นศก./หามจตุพรเข้ารพ./อังกฤษตำหนิสหรัฐ ขวาจัดวิจารณ์อิสราเอล

30 ธันวาคม 2559, 17:24น.


สรุปข่าว 19.35 น.



+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือกฎหมายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศปี 2560 ว่า  เงื่อนไขระยะเวลาการกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยของประเทศ โดยยอมรับว่าประเมินได้ยากเพราะจะต้องคำนึงถึงความพร้อมของพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ซึ่งเป็นองค์กรที่ต้องเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่ยืนยันว่า กรธ. ได้พิจารณายกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญโดยยึดโรดแม็พของรัฐบาลเป็นสำคัญ จึงเป็นที่มาของกรธ. ในยกร่างกฎหมาย กกต.และพรรคการเมืองก่อน เพื่อให้สามารถปรับตัว ให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ในกฎหมายลูก ซึ่งได้กำหนดระยะเวลาสำหรับการเตรียมความพร้อมของพรรคการเมืองไว้ 180 วัน หากพรรคการเมืองดำเนินการได้เสร็จสิ้นก่อนก็จะทำให้เกิดการเลือกตั้งที่เร็วขึ้น 



ส่วนจะเกิดการเลือกตั้งในช่วงปลายปี 2560 หรือ ต้นปี 2561ได้หรือไม่นั้น ไม่สามารถยืนยันแทนใครได้ แต่ย้ำว่ากรธ.ยังคงเดินหน้าตามโรดแมปของรัฐบาลโดยมีกรอบระยะเวลาจัดทำกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับให้เสร็จสิ้นภายใน 240 วัน ส่วนความเหมาะสมต่อการปลดล็อคคำสั่งที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง คาดว่า เมื่อถึงเวลาที่ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)จำนวน 2 ฉบับคือ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ...และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. พ.ศ...บังคับใช้ คสช.คงตระหนักและพิจารณาว่าจะผ่อนคลายมาตรา 44 กับพรรคการเมืองได้เมื่อใด ส่วนการที่พรรคการเมือง 2 พรรคใหญ่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับการจัดทำกฎหมายลูก ทางกรธ.มองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นอุปสรรค เพราะการมาร่วมหรือไม่มาร่วมไม่ใช่อุปสรรค เนื่องจากกรธ.รับฟังความเห็นทุกทางมาโดยตลอดอยู่แล้ว 



+++นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ย้ำคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 27/2559 ได้กำหนดห้ามไม่ให้ผู้ใดจุดและปล่อย หรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ พลุ ตะไล โคมลอยโคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายอำเภอ หรือ ผู้อำนวยการเขต เนื่องจากขณะนี้ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ประชาชนและสถานที่ต่างๆ อาทิ โรงแรม สถานบริการนิยม เล่นดอกไม้เพลิง จุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควันกันอย่างแพร่หลาย โดยที่ผ่านมาพบว่ามีอุบัติภัย หรือเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ที่เกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง การจุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควันอยู่บ่อยครั้ง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เป็นการเตรียมพร้อมในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่



+++พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ยังคงอำนวยความสะดวกประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โด วันที่ 29 ธันวาคม 2559 ซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาล มีประชาชนจำนวนมากใช้เส้นทางอย่างหนาแน่น ทั้งถนนสายหลักและสายรอง  คสช.โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ยังคงร่วมกันตั้งจุดตรวจและจุดอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่  พร้อมเข้มงวดในมาตรการสร้างความปลอดภัย “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” เพื่อความปลอดภัยในการสัญจรอย่างเต็มที่ ​สำหรับสถิติการตรวจพบผู้กระทำผิด ใน พบการกระทำความผิดรวม 788 ครั้ง ดำเนินคดี 500 ราย เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถจักรยานยนต์ไว้ 21 คัน ยึดรถยนต์ 6 คัน  ยึดใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 62 คน และยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 25 คน



+++นายกอบเกียรติ  กสิวิวัฒน์  อธิบดีกรมราชทัณฑ์  กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีอาการไข้สูง ปวดท้อง อาเจียน หนาวสั่น เบื้องต้นคาดว่าอาจจะเกิดจากอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยหลังจากนำเลือดมาตรวจแลป พบค่าไตสูง น่าจะเป็นอาการเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทีมแพทย์ได้ขอให้แอดมิดนอนติดตามอาการในคืนนี้ หากอาการดีขึ้นจึงค่อยส่งตัวกลับเรือนจำต่อไป



+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย” ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยมาตรการช้อปช่วยชาติ ในปีนี้มีความคึกคักมากกว่าปีก่อน เนื่องจากระยะเวลาเพิ่มจาก 7 วันเป็น 18 วัน คาดจะมีเม็ดเงินสะพัด 15,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีเงินสะพัด 10,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับมาตรการเที่ยวช่วยชาติที่คาดว่าจะมีเงินสะพัดอีก 6,000 ล้านบาท ทำให้ในช่วงปลายปีมีเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 21,000 ล้านบาท ซึ่งผลจาก 2 มาตรการดังกล่าว คาดจะกระตุ้นจีดีพีทั้งปี 59 เพิ่มขึ้น 0.1%



+++นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า แนวโน้มของการส่งออกไทยในเดือนธันวาคม 59 จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 59 โดยคาดว่าตัวเลขการส่งออกจะสามารถขยายตัวได้ 0% หรือเป็นบวกได้เล็กน้อย จากการที่เป็นช่วงฤดูกาลที่มีการส่งออกมาก ทำให้การส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าเพิ่มมากขึ้น และการย้ายฐานการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมบางประเภท อย่างเช่น ฮาร์ดดิสและโซลาร์เซลล์ ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้มีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น

ส่วนในปี 60 ธปท.ได้ปรับประมาณการตัวเลขการส่งออกมาอยู่ที่ 0% จากประมาณการเดิมที่ติดลบ 0.5% โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ามีจะมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวไทยในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ธปท.ประมาณการไว้ที่ 32.4 ล้านคน เป็น 32.5 ล้านคน เนื่องจากแนวโน้มของนักท่องเที่ยวชาวจีนในเดือนธันวาคมเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐได้ปราบปรามทัวร์ผิดกฏหมายในช่วงก่อนหน้านี้ ธปท.ยังคงประมาณกาอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 59 และ 60 อยู่ที่ 3.2% โดยมีปัจจัยหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าคาด



++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดที่1,542.94 จุด เพิ่มขึ้น 5.13จุด มูลค่าการซื้อขาย38,687.15 ล้านบาท ช่วงปลายปีตลาดค่อนข้างดูดีมากแม้ว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางแต่ก็เป็นเรื่องปกติที่ปลายนี้นักลงทุนจำนวนหนึ่งได้พักผ่อนไปก่อนหน้านี้เพื่อรอลุ้นกันใหม่ปีหน้า ส่วนส่วนระกานั้นประเมินว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวในช่วง1,440 – 1,632 จุด โดยต่างประเทศจะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญทั้งเรื่องของดอกเบี้ยและนโยบายสหรัฐฯ ส่วนในประเทศยังดูราบรื่นไร้เรื่องกังวล



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรในการซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2559 ปิดลบ 30.77 จุด ที่ 19,114.37 จุด



+++โฆษกนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษว่านางเทเรซาได้ตำหนินายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯกรณีวิจารณ์รัฐบาลอิสราเอลว่ามีแนวคิดขวาจัดมากที่สุดในประวัติศาสตร์อิสราเอล นับเป็นความเคลื่อนไหวที่บ่งชี้ว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษมีจุดยืนไปในทิศทางเดียวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ในการแถลง 70 นาทีเมื่อวันพุธ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่รัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามาจะส่งมอบภารกิจให้กับนายทรัมป์ นายแคร์รี่เตือนว่าโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยของอิสราเอลในเขตยึดครองของปาเลสไตน์อาจกระทบต่อสันติภาพในตะวันออกกลางรัฐบาลอังกฤษเชื่อว่าแม้ว่าการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในเขตยึดครองของชาวปาเลสไตน์จะผิดกฏหมาย แต่ก็ปรากฏอย่างเด่นชัดว่าการก่อสร้างที่พักอาศัยของอิสราเอลก็ยังไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงของปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ รัฐบาลอังกฤษไม่เชื่อว่าแนวทางการเจรจาสันติภาพนั้นควรจะจำกัดอยู่เฉพาะประเด็นใดเพียงประเด็นเดียว ที่สำคัญคือ รัฐบาลอังกฤษมองว่าการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลพันธมิตรเช่นอิสราเอลที่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนมาโดยวิถีทางระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้อง



 

ข่าวทั้งหมด

X