วันแรก7วันอันตรายตาย42เจ็บ565 อุบัติเหตุเพิ่มขึ้น จ.ปทุมธานีตายสูงสุด ปลัดสธ.เน้นคุมเข้มทางสายรอง

การเกิดอุบัติเหตุทางถนน วันแรกในช่วง 7 วันอันตราย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2559 - 4 ม.ค.2560 โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า ภาพรวมวันแรก 7 วันอันตรายขณะนี้ พบการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งในปีนี้เกิดอุบัติเหตุแล้ว ทั้งสิ้น 524 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 85 ครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิต 42 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 3 คน ส่วนผู้บาดเจ็บในปีนี้มีแล้วทั้งสิ้น 565 คน โดยสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุราและขับรถเร็วเกินกําหนด ทั้งนี้ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.09 ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของการเกิดอุบัติเหตุเป็นถนนในเส้นทางหลัก โดยเกิดสูงสุดในช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ จะอยู่ในกลุ่มของวัยแรงงานได้แก่ อายุ 20 - 44 ปี โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดในวันแรกของ 7 วันอันตราย ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่มีอุบัติเหตุสูงสุดถึง 21 ครั้ง

จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี มีผู้เสียชีวิต 4 คน รองลงมาผู้เสียชีวิตเป็น จ.พัทลุง กับ จ.กระบี่ จังหวัดละ3 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จังหวัดอุดรธานีและจังหวัดพิษณุโลกมีผู้บาดเจ็บ 23 คน ทั้งนี้ พบว่า สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนหนึ่งมาจากการดื่มสุราของเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตามร้านค้าต่างๅ หากพบว่ามีการขายสุราให้กับเด็กอายุและเยาวชน ต่ำกว่า 20 ปี มีโทษจำคุก ไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในวันนี้ ประชาชนอาจจะมีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ในท้องที่มากขึ้น ซึ่งอาจมีอุบัติเหตุในถนนสายรองมากกว่าถนนสายหลัก โดยได้สั่งการให้มีการตั้งด่านตามชุมชน กวดขันการขับรถเร็ว การไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย การขับรถย้อนศร เพื่อสกัดกั้นให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง นอกจากนี้ยังได้มีการเตรียมความพร้อมการแพทย์ฉุกเฉิน ให้เข้าถึงและส่งผู้ประสบอุบัติเหตุได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทุกพื้นที่โดยในกรณีการเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยสามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม