เยอรมนีจับผิดตัวปล่อยชายต้องสงสัยที่ร่วมมือกับอาริส อัมรี/ไม่มีร่องรอยระเบิดเครื่องบินทหารรัสเซียตกในทะเลดำ/สิงค์โปร์เนรเทศชาวอินโดฯสมาชิกไอเอส

+++เอเอฟพี รายงานอ้างโฆษกตำรวจนครบาลกรุงเบอร์ลิน เยอรมนีว่า หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงของเยอรมนีจะเพิ่มมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยในคืนวันฉลองส่งท้ายปีในกรุงเบอร์ลินในวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคมนี้ หลังเกิดเหตุโจมตีด้วยรถบรรทุกเมื่อสัปดาห์ก่อน ระดมกำลังตำรวจพร้อมปืนกลเข้าไปประจำการตามจุดต่างๆเพื่อดูแลความปลอดภัย ใช้แท่งคอนกรีตปิดกั้นถนนโดยรอบบริเวณจุดที่มีการจัดงานเฉลิมฉลอง มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมที่ตำรวจจะดำเนินการในปีนี้คือการวางแท่งคอนกรีตและรถหุ้มเกราะประจำการอยู่ในบริเวณประตูทางเข้าพื้นที่จัดงาน

+++จำนวนกำลังตำรวจที่ถูกระดมไปดูแลความปลอดภัยบริเวณจัดงานมีจำนวนเท่ากับปีที่แล้วคือ 1,000 นาย แต่กำลังตำรวจบางส่วนจะติดปืนกลเพื่อดูแลความปลอดภัย นอกจากนี้ประชาชนที่ไปร่วมงานฉลองในคืนวันส่งท้ายปีจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าเป้กระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ พลุดอกไม้ไฟหรือวัตถุอันตรายอื่นๆเช่นขวดแก้ว ห้ามนำเข้าไปในบริเวณจัดงาน คาดว่าจะมีประชาชนหลายแสนคนไปร่วมงาน

+++อัยการเยอรมนี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยชายชาวตูนิเซียวัย 40 ปี ที่ถูกควบคุมตัวฐานต้องสงสัยสมรู้ร่วมคิดกับนายอาริส อัมรี ผู้ก่อเหตุขับรถบรรทุกโจมตีตลาดคริสต์มาสในกรุงเบอร์ลิน ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้ว หลังจากพบว่าเป็นการจับผิดตัว มีรายงานว่า ก่อนที่นายอัมรี จะก่อเหตุได้ส่งข้อความเสียงทางโทรศัพท์มือถือและภาพถ่ายติดต่อกับบุคคลรายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนพบว่าไม่ใช่ชายรายดังกล่าวที่ถูกควบคุมตัว มีการตรวจสอบยืนยันว่า ข้อความวิดีโอ ที่ถูกเผยแพร่ออกมา 4 วันหลังเหตุโจมตีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม เป็นภาพ นายอัมรี กำลังสาบานตนสวามิภักดิ์ต่อนายอาบู บาคร์ อัล บักห์ดาดี ผู้นำสูงสุดของรัฐอิสลาม(ไอเอส) ตรวจสอบแล้วเป็นของจริง              

+++โฆษกกระทรวงความมั่นคงภายในของสิงคโปร์ ระบุว่า พลเมืองอินโดนีเซีย 2 คนถูกรัฐบาลสิงคโปร์ สั่งเนรเทศกลับประเทศ หลังต้องสงสัยว่าหนึ่งใน 2 คนประสงค์จะเดินทางไปยังซีเรียผ่านสิงคโปร์ โดยการช่วยเหลือของชาวอินโดนีเซีย

+++หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ของอินโดนีเซีย เพิ่มเติมว่าทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่าเป็นสมาชิกกลุ่มไอเอส คนแรกเป็นชายอายุ 40 ปีอยู่ในเมืองบาตัม ส่วนอีกรายเป็นสตรีวัย 40 ปีเกิดในจังหวัดชวาตะวันตก ทั้งสองรับสารภาพว่าวางแผนจะเดินทางจากสิงคโปร์ไปซีเรีย

+++ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ประกาศว่า รัฐบาลซีเรียและฝ่ายกบฏ ในเมืองอีสเทิร์น กูตาใกล้กรุงดามัสกัส สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและจะเริ่มต้นเจรจาสันติภาพโดยเร็ว สำหรับข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลในช่วงเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นของซีเรียหรือราว 05.00 น.ตามเวลาวันนี้ของประเทศไทย

+++หลังจากเกิดความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองในซีเรียมากกว่า 5 ปี มีคนเสียชีวิตแล้ว 400,000 ศพ

+++นายเซอร์เก ไบเนตอฟ หัวหน้าสำนักงานความปลอดภัยด้านการบินของกองทัพอากาศรัสเซียรายงานว่า ซากเครื่องบินรุ่นทียู-154 ลำหนึ่งของกองทัพอากาศรัสเซียที่ตกในทะเลดำเมื่อวันอาทิตย์ มีคนเสียชีวิต 92 ศพ ไม่มีร่องรอยความเสียหายจากระเบิดหรือไฟไหม้ อาจเป็นผลจากการที่เครื่องบินตกกระแทกผิวน้ำอย่างรุนแรง แต่ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นเรื่องการก่อการร้าย ความผิดพลาดของนักบินหรือเครื่องยนต์ขัดข้องอาจจะเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุในครั้งนี้ คาดว่าพนักงานสอบสวนอาจจะใช้เวลาสอบสวน 30 วันจึงจะทราบสาเหตุอุบัติเหตุที่ชัดเจน

+++ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์  กล่าวว่า เขาเคยโยนชายเชื้อสายจีนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าข่มขืน  ลงจากเฮลิคอปเตอร์ ขณะบินอยู่กลางอากาศ นายดูเตร์เต กล่าวระหว่างการปราศรัยต่อผู้ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่น  ซึ่งมีการบันทึกเป็นคลิปวิดีโอ เผยแพร่โดยทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ว่าคำขู่ล่าสุดของนายดูเตร์เต มีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังจากเขายอมรับว่า เขาเคยฆ่าคน ระหว่าง 22 ปีของการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวา สมาชิกวุฒิสภาบางคนเตือนนายดูเตร์เต ว่าเสี่ยงถูกรัฐสภาดำเนินการถอดถอนออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศ จากคำพูดดังกล่าว นายดูเตร์เต ย้ำหลายครั้งว่า การฆ่าเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการของตำรวจที่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงเหตุการณ์จับตัวประกัน และผู้ที่ถูกฆ่าล้วนแต่เป็นฆาตกร ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย

+++ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันปรับลดเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯสูงขึ้น  สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 53.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 8 เซนต์ ปิดที่ 56.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ  ปิดลบในกรอบแคบๆ ถูกฉุดโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง  ดาวโจนส์ ลดลง 13.90 จุด ปิดที่ 19,819.78 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.66 จุด ปิดที่ 2,249.26 จุด แนสแดค ลดลง 6.47 จุด ปิดที่ 5,432.09 จุด

+++ส่วนราคาทองคำ พุ่งขึ้นแรงและปิดบวก 4 วันติด แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 17.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,158.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

CR:AFP