ข่าวเที่ยงครึ่ง
+++นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้คณะกรรมการการ(บอร์ด)รถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และผู้บริหารรฟท. ว่า หลังจากนี้ รฟท.ต้องปฏิรูปการรถไฟให้เป็นรูปธรรม ต้องลดขาดทุน และสร้างรายได้มากกว่าเดิมอย่างน้อยปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อลดการขาดทุนจากการเดินรถที่ปัจจุบันขาดทุนอยู่ประมาณ 7,500 ล้านต่อปี ส่วนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งก์ขาดทุนประมาณ 280-300 ล้านต่อปี การขาดทุนลักษณะนี้ทำให้ต้องขอเงินสนับสนุนจากภาครัฐทุกปี สร้างภาระแก่ประชาชน และรฟท.ก็ไม่มีโอกาสพัฒนาจึงเป็นห่วงและอยากให้แก้ไขด่วน สำหรับแนวทางการปฏิรูปรถไฟ เพื่อลดการขาดทุนนั้น ได้ให้รฟท. จัดตั้งบริษัทพัฒนาบริหารสินทรัพย์การรถไฟ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน โดยรฟท. ถือหุ้น 100% แต่บริหารจัดการจะคล่องตัวแบบเอกชน จะช่วยให้การรถไฟสามารถดูแลทรัพย์สินที่มีอยู่มหาศาล โดยเฉพาะที่ดินที่ไม่ได้ใช้เดินรถ ที่มีอยู่ประมาณเกือบ 40,000 ไร่ ให้หาผลตอบแทนได้อย่างคุ้มค่า ทั้งนี้ปัจจุบัน รฟท. มีรายได้จากส่วนนี้ประมาณ 3,000 กว่าล้านต่อปี ถือเป็นผลตอบแทนต่ำกว่ามาตรฐานของตลาดค่อนข้างมาก นอกจากนี้ยังให้ปรับปรุงการเดินรถ เพราะผู้ใช้บริการมีทุกกลุ่ม ทั้งผู้มีรายได้น้อย และรายได้มาก แต่กลับได้รับการบริการแบบเดียวกัน ทางการตลาดจำเป็นต้องแบ่งกลุ่มผู้โดยสารเพื่อให้บริการได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเป็นนโยบายสำคัญของรัฐที่ต้องให้การดูแลอย่างดี ส่วนกลุ่มผู้มีรายได้มาก สามารถใช้บริการที่มีราคาสูงขึ้นได้ เช่น มุ่งเน้นการท่องเที่ยว หรือจัดบริการรถไฟเพื่อคนทำงาน รฟท. มีหนี้สินประมาณแสนล้านบาท จะใช้วิธีปรับโครงสร้างหนี้ เชื่อว่าน่าจะบริหารจัดการได้ไม่อยาก เพราะเป็นองค์กรที่มีศักยภาพสูงในการทำรายได้ เนื่องจากทรัพย์สินที่มีอยู่ โดยเฉพาะที่ดินมักกะสัน สถานีแม่น้ำ และบางซื่อพื้นที่ที่สวยที่สุดทำรายได้มหาศาล อีกทั้งยังมีผลในการพัฒนาเมืองให้กรุงเทพฯ ก้าวขึ้นเป็นมหานครระดับโลกด้วย
+++การส่งเสริมการปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 เฉพาะกัญชง หรือ เฮมพ์ (Hemp) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการปลูกกัญชง สำหรับการใช้ประโยชน์ในครัวเรือน (ใช้ในการทอเส้นใยผ้า) และในเชิงอุตสาหกรรมหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 360 วันนับแต่วันประกาศเป็นต้นไป “โดยในระยะ 3 ปีแรก นับแต่วันประกาศ จะให้เฉพาะหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ขออนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง และให้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ประเมินผลเพื่อเสนอครม.พิจารณาว่า เหมาะสมหรือไม่ที่จะอนุญาตให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมายื่นขออนุญาตสาระสำคัญของกฎกระทรวง คือ สายพันธ์ กัญชง ที่จะปลูกได้ต้องมีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol หรือ THC) ไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อน้ำหนักแห้ง การพัฒนากระบวนการแปรรูปจากเส้นใย โดยทดลองปลูกใน 6 จังหวัด 15 อำเภอ เท่านั้น คือ จังหวัดเชียงใหม่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่วาง แม่ริม สะเมิง แม่แจ่ม จังหวัดเชียงราย 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเทิง เวียงป่าเป้า แม่สาย จังหวัดน่าน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาหมื่น สันติสุข สองแคว จังหวัดตาก 1 อำเภอ คือ อำเภอพบพระ จังหวัดเพชรบูรณ์ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง หล่มเก่า เขาค้อ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน 1 อำเภอ คือ อำเภอเมือง
การปรับแนวทางการควบคุมและกำกับดูแลการปลูกกัญชง โดยการส่งเสริมกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อนำเส้นใยมาผลิตเสื้อผ้า กระเป๋า ยังคงมีการควบคุมจากภาครัฐ โดยมีการกำหนดการขออนุญาตปลูก พื้นที่ปลูก และให้ใช้ประโยชน์ได้เฉพาะตามที่ได้รับอนุญาต และต้องมีการตรวจวัดปริมาณสาร THC ของกัญชงที่ปลูก ต้องไม่เกิน ร้อยละ 1.0 ต่อน้ำหนักแห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำกัญชงไปใช้ในทางที่ผิด แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการใช้ประโยชน์จากพืชกัญชงให้มากขึ้นด้วย กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2559” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,160 คน พบว่าที่สุดของข่าวในประเทศที่ประชาชนสนใจ ติดตาม และเกาะติดแห่งปี ได้แก่ ข่าวการเสด็จสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 และการ เข้าเฝ้าฯ ถวายสักการะพระบรมศพของประชาชน ที่สุดของบุคคลในสังคมไทยที่น่าชื่นชมยกย่อง ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่อง การบริหารและการปฏิรูปประเทศไทย เช่น ปราบทุจริต ปราบอิทธิพล และจัดระเบียบต่างๆ ฯลฯ ที่สุดของบุคคลในวงกีฬาที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ชื่นชอบ ได้แก่ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองที่สุดของดารา/นักร้องชายที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ชื่นชอบ ได้แก่ ตูน Bodyslam ที่สุดของดารา/นักร้องหญิงที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ชื่นชอบ ได้แก่ แต้ว ณฐพร ที่สุดของละครไทยที่ชื่นชอบ ได้แก่ เรื่อง “นาคี” ช่อง 3 ที่สุดของคำพูดหรือวลีเด็ดแห่งปี ได้แก่ “ กราบรถกู ! ”
+++คดีที่ น.ส.แพรพิชชา สมาตสรบุศย์ หญิงไทยวัย 41 ปี ตกเป็นจำเลยคดีฉ้อโกงผ่านการทำธุรกรรมออนไลน์ หลังถูกเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ จับกุมเมื่อเดือนมีนาคม ล่าสุดศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ เมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ตัดสินให้จำคุก นางสาวแพรพิชชา เป็นเวลา 30 เดือน รวมถึงเตรียมถูกเนรเทศหลังจากพ้นโทษ พร้อมทั้งสั่งปรับราว 400,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 14 ล้านบาท และชดใช้่ค่าเสียหายในจำนวนเดียวกันกับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นที่ศาลสั่งให้ชดใช้ราว 800,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 28 ล้านบาทนางสาวแพรพิชชา รับสารภาพในพฤติกรรมการกระทำผิด โดยวางแผนสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมของแท้ ราคาสูงจากร้านค้าออนไลน์ของห้างสรรพสินค้าในสหรัฐ ก่อนที่จะนำกระเป๋าของปลอมที่ผลิตในจีนและฮ่องกง ไปคืนที่แผนกรับคืนสินค้ากว่า 60 แห่งในรัฐต่างๆ อย่างน้อย 12 รัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับผิด ก่อนจะนำสินค้าของจริงไปโพสต์ขายออนไลน์ทางอีเบย์และอินสตาแกรม ประเมินมูลค่าความเสียหายกว่า 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14 ล้านบาท โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าที เจ แม็กซ์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายรายใหญ่ สำหรับ น.ส.แพรพิชชา มีอาชีพเสริมเป็นครูในโรงเรียนเตรียมอนุบาลแห่งหนึ่งในเขตฟอร์ต วอชิงตัน รัฐแมรีแลนด์ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐติดตามพฤติกรรมและล่อซื้อ ก่อนบุกค้นห้องพักของเธอ ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย และตรวจยึดของกลางเป็นกระเป๋ามากถึง 527 ใบ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา.