การประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พลตรี ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย พันโทหนุน ศันสนาคม กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะประธานคณะทำงานบริหารจัดการสลาก ร่วมกันแถลงข่าวความต่อเนื่องในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคา พลตรีฉลองรัฐ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพิ่มจำนวนพิมพ์สลาก ซึ่งไม่ได้ต้องการเพิ่มยอดขาย แต่เพื่อแก้ไขปัญหาการขายเกินราคาและการรวมชุด และหากแก้ไขปัญหาได้แล้ว ก็จะลดจำนวนพิมพ์ลงในทันที โดยจะติดตามพิจารณาเป็นรายงวดสำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน ที่มีความต้องการสลากฯ เพิ่มขึ้น จึงให้พิมพ์เพิ่มอีก 5,000,000 ฉบับ ในงวดวันที่ 30 ธันวาคม 2559 และพิมพ์สลากเพิ่มอีก 8,000,000 ฉบับ ในงวดวันที่ 17 มกราคม 2560 โดยเพิ่มในโครงการซื้อ-จองล่วงหน้า ฯ ทำให้งวดวันที่ 30 ธันวาคม 2559 มีสลากในตลาด 65 ล้านฉบับคู่ และในงวดวันที่ 17 มกราคม 2560 มีสลากในตลาด 68 ล้านฉบับคู่ และจะยังคงงวดละ 68 ล้านฉบับคู่ไปจนถึงงวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560และในงวด 16 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักงานฯ จะพิมพ์สลากเพิ่มอีก 3 ล้านฉบับคู่ จาก 68 ล้านฉบับคู่ รวมเป็น 71 ล้านฉบับ โดยส่วนที่เพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านฉบับคู่ จะจัดสรรให้กับองค์กร สมาคม มูลนิธิคนพิการ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างผู้จำหน่ายรายย่อย กับสมาคม องค์กรและมูลนิธิ เนื่องจากปัจจุบัน สลากกว่าร้อยละ 85 ตกอยู่ในกลุ่มผู้ค้ารายย่อย ซึ่งมีการกระจายตัวในการจำหน่าย ทำให้การควบคุมต้องดำเนินการในวงกว้าง ขณะที่ การจัดสรรสลากส่วนที่เพิ่มให้กับสมาคม องค์กร มูลนิธิคนพิการ จะช่วยปรับสมดุลและช่วยในเรื่องการควบคุมผู้จำหน่าย
ด้านนายธนวรรธน์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สาเหตุการพิมพ์สลากฯเพิ่ม เนื่องจากมีผู้สนใจทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้าสลากฯ เป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 6 เดือนที่แล้ว มีผู้โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อทำรายการสูงถึงครั้งละกว่า 90,000 ราย ขณะที่ มีผู้ทำรายการได้ครั้งละ 67,000 ราย มีผู้ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสลากได้ประมาณ 23,000 ราย คิดเป็นจำนวนสลากประมาณ 120,000 เล่มคู่ ในขณะเดียวกัน ในจำนวนผู้โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้า ยังมีผู้ประสงค์จะรับสลากไปจำหน่ายมากกว่า 5 เล่มอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ดังนั้น คาดว่า น่าจะยังมีความต้องการสลากอยู่อีกประมาณ 150,000 – 160,000 เล่มคู่ โดยการทำรายการแต่ละครั้ง ใช้เวลาเพียง 6-7 นาที และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีเหตุการณ์วิวาทเพื่อแย่งกันทำรายการซื้อ-จองล่วงหน้า ฯ บริเวณตู้เอทีเอ็ม ที่ อ.เชียงคาน จังหวัดเลย ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความต้องการสลากในส่วนของผู้ขาย ประกอบกับขณะนี้ ใกล้ช่วงปีใหม่และตรุษจีน ซึ่งช่วงนี้ของทุกปี สลากกินแบ่งรัฐบาลจะเป็นที่ต้องการสูง เนื่องจากเป็นที่นิยมเสี่ยงโชคและให้เป็นของขวัญ อีกทั้งยังมีการจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีการลักลอบนำสลากไปจำหน่ายต่อในราคาสูงอีกด้วยทั้งนี้สำนักงานฯ ยังคงความเข้มข้นและความต่อเนื่องในการลงพื้นที่กวดขันการจำหน่ายสลากตามราคาและจับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาทั่วประเทศ โดยตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 จนถึงขณะนี้(ธันวาคม 2559) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ได้จับกุมผู้จำหน่ายสลากเกินราคาและดำเนินคดีอาญาแล้ว 986 ราย ยกเลิกสัญญาการเป็นตัวแทนจำหน่าย 152 ราย และยกเลิกสิทธิการลงทะเบียนโครงการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ แล้ว 154 ราย
พันโทหนุน ศันสนาคม กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และประธานคณะทำงานบริหารจัดการสลาก กล่าวถึง ทิศทางที่จะดำเนินการต่อจากนี้ไปว่า ในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ สำนักงาน ฯ เตรียมจัดสัมมนาทางวิชาการ เกี่ยวกับการดูแลคนพิการ ว่าควรจะเป็นการจัดสรรสลากให้จำหน่ายหรือดูแลด้วยการบริหารจัดการเงินส่วนลดผ่านองค์กรที่ดูแลคนพิการไปบริหารจัดการเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและทั่วถึง โดยเชิญตัวแทนภาคประชาชน นักวิชาการและตัวแทนสมาคม องค์กร มูลนิธิคนพิการ ที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสลากเพื่อรวบรวมความคิดเห็นที่ได้จากการสัมมนา ไว้ประกอบการพิจารณาแก้ไขปัญหาต่อไป และหลังจากนี้ คณะกรรมการสลาก ผู้บริหารระดับสูง และตัวแทนภาคประชาชน จะลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาและรณรงค์ต่อต้านการจำหน่ายสลากเกินราคาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มลงพื้นที่ปลายเดือนมกราคม 2560 อย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาคของประเทศด้วย
CR: http://www.glo.or.th/ewt_news.php?nid=7161&filename=index