หลังจากที่เมื่อคืนนี้ระบบเฟสบุ๊คแจ้งเตือนระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องจริง ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ซึ่งเรื่องนี้ต้องแยกเป็น2ส่วน คือ การแจ้งเตือนดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของระบบเฟสบุ๊ค หรือเกิดจากการกระทำที่มีเจตนาของคนใดคนหนึ่ง โดยผู้กระทำต้องมีความผิดตาม พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ และก่อให้เกิดความตระหนกต่อประชาชน มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคง กำลังตรวจสอบทุกมิติว่าเป็นเพราะระบบมีปัญหาหรือมีคนจงใจสร้างความตื่นตระหนก และเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์ด้วยหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่จะไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
ขณะเดียวกันทราบว่าสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( ปอท. ) อยู่ระหว่างทำหนังสือสอบถามไปยังบริษัทแม่ของเฟสบุ๊ค หากตรวจสอบแล้วพบว่า เกิดจากระบบมีปัญหา ต้องดูรายระเอียดว่าผู้ที่ดูแลระบบใช้ความรู้ความสามารถหรือไม่ หรือมีความจงใจหรือไม่ และเรื่องนี้เจ้าหน้าที่มีมาตราการดำเนินการอยู่แล้ว หากบริษัทเฟสบุ๊คไม่ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด
การดำเนินคดีกับกลุ่มที่ต่อต้านพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พันตำรวจเอกกฤษณะ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงจะทยอยส่งตัวผู้กระทำผิดมาให้ตำรวจดำเนินคดี หลังสอบปากคำแล้วเสร็จ และขยายผลเพิ่มเติม ยืนยันว่าการทำงานของตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นไปตามหลักฐาน ยืนยันว่าไม่ได้จับแพะตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนการดูแลความปลอดภัยประชาชนในโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ช่วงเทศกาลปีใหม่ นั้น หลังจากเปิดโครงการเพียง2วัน มีประชาชนเข้าร่วมโครงการกว่า 2 พันหลัง จึงคาดว่าปีนี้จะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการมากกว่าปีก่อน โดยพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบโครงการดังกล่าว พร้อมลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย