ประชาชนอยากให้ของขวัญนายกรัฐมนตรีมากที่สุด/เปิดเข้าอุทยานฯฟรี 31ธ.ค.59-1 ม.ค.60 ไม่รวมค้างคืน/ธรรมกายยังไม่รื้อสิ่งกีดขวาง

ข่าวเที่ยงครึ่ง

+++นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยจากผลสำรวจพฤติกรรมของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 พบว่า คำอวยพรที่อยากอวยพรให้ประเทศมากที่สุด อันดับแรกคือ ขอให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง รองลงมาคือ ขอให้เศรษฐกิจดีขึ้นและมีรายได้เยอะๆ ขณะที่นักการเมืองที่อยากให้ของขวัญมากที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ร้อยละ50.9  รองลงมาคือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ส่วนผลสำรวจอยากเดินทางไปท่องเที่ยวกับนักการเมืองคนใดมากที่สุด อันดับ 1 คือ พล.อ.ประยุทธ์ รองลงมาคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์สำหรับปัญหาที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขเร่งด่วน คือ เศรษฐกิจโดยรวม เสถียรภาพทางการเมือง ปัญหาสังคม และการเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติ

+++ของขวัญปีใหม่  นายอยู่ เสนาธรรม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ภาคตะวันออก เปิดเผยว่า เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่คนไทยทั่วประเทศ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงเปิดให้คนไทยได้เที่ยวฟรีไม่เสียค่าเข้ามาท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ ทั้งบริเวณที่ป่าเขา เกาะแก่งต่างๆ และทะเล โดยจะเปิดให้เที่ยวฟรีตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 59 - 1 ม.ค.60 รวม 2 วัน โดยจะให้เที่ยวได้ตั้งแต่ในช่วงเวลาเปิดทำการจนถึงช่วงเย็นหรือเวลาปิดทำการ ไม่รวมการค้างแรมภายในอุทยานแต่อย่างใด คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวยังอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศหลายล้านคน

+++นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึง กรณีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 84 คน ลงชื่อเสนอขอแก้ไขพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2535 โดยให้การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ว่า ให้เป็นเรื่องของสนช. ที่จะดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ต้องรอให้สนช.พิจารณาให้เสร็จสิ้นก่อน เท่าที่ทราบสนช.จะพิจารณาในวันที่ 29 ธ.ค. ซึ่งตนจะเข้าไปร่วมฟังด้วย ส่วนกรณีที่พระเมธีธรรมมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ศพศ.) เตรียมปลุกม็อบพระเพื่อคัดค้านการแก้ไขพ.ร.บ.คณะสงฆ์นั้น รัฐบาลไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย และไม่อยากให้ตีตนไปก่อนไข้ เพราะคงไม่มีอะไรมาก อย่าเพิ่งไปปลุกม็อบเลย คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ต้องทำให้เกิดความรักสามัคคีกัน ทุกคนรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์เหมือนกัน ส่วนการจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า ได้พูดคุยกับพศ. แล้วเมื่อวันที่ 27ธ.ค.แต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด โดยจะต้องคุยกันอีกครั้งหนึ่งหลังปีใหม่ เพราะไม่ทราบว่าได้ดำเนินการไปมากน้อยเพียงใด แต่เท่าที่ได้ติดตามข้อมูลอยู่ในขั้นตอนดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามคดีธรรมกายต้องอยู่ในกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย

+++ความเคลื่อนไหวที่ วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เข้าสู่ภาวะปกติ ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนอีก 5 กองร้อยจากตำรวจภูธรภาค 1 ที่จะเข้ามาสับเปลี่ยนกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเมื่อวานนี้ เพื่อจะปิดล้อมกดดันวัดพระธรรมกายอีกครั้ง ในช่วงเช้าของวันนี้เพื่อให้ทางวัดพระธรรมกายปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ก็ไร้วี่แววของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว โดยทั่วไปในช่วงเช้าบริเวณประตู 7 ถนนสายบางขัน-หนองเสือ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้เปิดให้ใช้งานเข้า-ออกได้ตามปกติ โดยเจ้าหน้าที่ รปภ.งคงตรวจตราบุคคลที่จะเข้าไปในวัดอย่างเข้มงวดเหมือนเดิม และยังไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวภายในวัดพระธรรมกายเหมือนเช่นก่อน ส่วนที่บริเวณหน้าประตู 5 และ 6 ก็เข้าสู่ภาวะปกติ โดยที่ประตู 5 มีพระสงฆ์ของวัด 4 รูป ออกมาบิณฑบาตและมีการนั่งสวดมนต์บนทางสาธารณะของลูกศิษย์จำนวนหนึ่งและก็มีเจ้าหน้าที่ของวัดตรวจเข้มบุคคลที่จะไปยังหอฉันอาคารดาวดึงส์ หลังจากที่บริเวณจุดนี้ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กดดันให้ทางวัดพระธรรมกายเปิดทาง เนื่องจากมีการปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำทางสาธารณะ โดยได้มีการติดประตูเมทัลชิลที่ปิดกั้นทางสาธารณะออกไป แต่ยังมีเต็นท์กางทับเส้นทางสาธารณะถนนเลียบคลองแอน ระหว่าง 2-3 ไม่ได้มีการรื้อถอนแต่อย่างใด และมีการนำสแลมสีเขียวมาปิดกั้นทางสาธารณะเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งทางสาธารณะถนนเลียบคลองแอนระหว่าง 2-3 บางช่วงก็ยังมีการนำเสาคอนกรีตมาปิดกั้นไว้ ไม่ได้มีการขนย้ายออกตามที่ได้รับปากไว้แต่อย่างใด

+++นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้า รวมถึงร้านอาหารปรุงสำเร็จ ในสถานีขนส่งหมอชิต 2 พบว่าโดยภาพรวมแล้ว ราคาอาหาร ทั้งอาหารปรุงสำเร็จ และน้ำดื่มยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยราคาอาหารปรุงสำเร็จจานละ 30- 35 บาท น้ำดื่มขวดละ 7-10 บาท แต่ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกสุ่มตรวจเป็นประจำ โดยเฉพาะสถานีขนส่งทั่วประเทศ เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เป็นช่วงที่มีผู้คนเดินทางจำนวนมาก พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ร้านค้าติดป้ายราคา เพื่อให้ผู้บริโภคเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการฉวยโอกาสปรับราคา แต่หากประชาชนพบพ่อค้า แม่ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569  ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 60 นี้ มีผลกระทบต่อต้นทุนราคาอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคเพียง 10 สตางค์เท่านั้น ถือว่าน้อยมาก จึงไม่ใช่เหตุผลในการที่ผู้ประกอบการจะปรับขึ้นราคาสินค้า      หลังจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะยังเดินสายออกตรวจสถานการณ์ราคาสินค้าที่ตลาดไท รวมถึงตรวจสอบสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย

+++นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)กล่าวว่า คาดการณ์การเติบโตของการส่งออกปี 2560 ไว้ที่ร้อยละ1 – 2  ปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของราคาน้ามันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลักที่สาคัญในตลาดโลกฟื้นตัวต่อเนื่องจากปลายปี 2559 อาทิ ข้าว น้ำตาล ยางพารา และการปรับตัวของผู้ส่งออกไทยต่อสภาพการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป  ส่วน สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของโลกในปีหน้ายังคงมีปัจจัยเสี่ยงสาคัญที่ต้องเฝ้าระวัง และอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการส่งออกของไทย  ต้องจับตาการออกมาตรการกีดกันทางการค้าทั้งด้านภาษีและไม่ใช่ภาษีเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของสหรัฐอเมริกา และนำไปสู่การตอบโต้ในลักษณะเดียวกันโดยประเทศคู่ค้าอื่น ทำให้การค้า ระหว่างประเทศ ในภาพรวมหดตัวลงในระยะยาว แต่จะทำให้การส่งออกของไทยได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 รวมทั้งสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าตามมาในวงกว้าง และภัยธรรมชาติที่รุนแรงและบ่อยครั้งมากขึ้น เป็นสัญญาณเตือนอันตรายครั้งใหญ่อาจทาให้เกิดภาวะชะงักงันได้  

++ สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการงดการตั้งฉายาแก่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฝ่ายนิติบัญญัติ ประจำปี 2559 ออกไปก่อน เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองไม่อยู่ในสภาวะปกติ ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภาไม่มีการตั้งฉายาในฝ่ายนิติบัญญัติ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57