การประชุมสรุปภาพรวมการดำเนินการรื้อถอนสิ่งกีดขวางทางสาธารณะและติดตามความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ที่สภ. คลองหลวง พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยก่อนการประชุม ว่า ส่วนตัวแล้วรู้สึกพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ โดยการรื้อถอน ดำเนินการตาม พ.ร.บ. จราจร ป. วิอาญา ส่วนจะมีการรื้อสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่และถาวร เช่น สะพานหรือไม่นั้น จะต้องรอให้ศาลสั่งก่อน ซึ่งขณะนี้มีหลักฐานพร้อมแล้ว โดยการรื้อสะพาน เจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะรื้อไม่ไหว นอกจากสิ่งกีดขวางทางสาธารณะที่บริเวณประตู 5 และ 15 แล้ว ยังมีสิ่งกีดขวางอื่นๆ ซึ่งมีการร้องทุกข์มาอีก ส่วนจะดำเนินเสร็จสิ้นภายในอาทิตย์นี้หรือไม่นั้น ก็ต้องค่อยๆ รวบรวมพยานหลักฐานไปเรื่อยๆ ให้ครบถ้วน สมบูรณ์ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้จะดำเนินการรื้อถอนอีกหรือไม่นั้น ต้องรอประชุมวันนี้ก่อน
สำหรับการดำเนินคดีกับศิษยานุศิษย์ที่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ จะต้องรอประชุมก่อน ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 คงจะรายงานมาขณะที่การตัดน้ำ ตัดไฟ เป็นเรื่องปกครอง ทางตำรวจดำเนินการเฉพาะทางอาญา
ส่วนกรณีที่อบต. คลองสาม จะถอนแจ้งความ จะมีผลต่อการดำเนินคดีหรือไม่นั้น พล.ต.อ. ศรีวราห์ ระบุว่า ไม่มีผล เนื่องจากเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ใครร้องทุกข์ก็ได้ หากปรากฏขึ้นมาแล้วก็ดำเนินการไป โดยยืนยันว่าจะไม่ให้มือที่สามเข้ามาก่อเหตุ ส่วนหมายค้นครั้งต่อไป จะเริ่มขอเลยหรือไม่นั้น ต้องถามพล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขณะที่มีรายงานทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ขอหมายค้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว พล.ต.อ. ศรีวราห์ ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงาน และหากมีการประสานก็ต้องประสานมาที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนหลังปฏิบัติการวันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะถอนกำลัง 5 กองร้อยเลยหรือไม่นั้น จะต้องถามผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับวัดพระธรรมกาย จะต้องรอผลการประชุมวันนี้เช่นกัน โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหากับวัดพระธรรมกายแล้วกว่า 175 คดี