นายกฯ อิสราเอลสั่งทบทวนความสัมพันธ์กับสหประชาชาติ

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันญาฮู แห่งอิสราเอลระบุว่าอิสราเอลจะทบทวนความสัมพันธ์กับองค์การสหประชาชาติ หลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติรับรองข้อเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการก่อสร้างนิคมชาวยิวในดินแดนปาเลสไตน์ โดยเห็นว่านิคมชาวยิวเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายสากลและเป็นอุปสรรคสำคัญในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่ดำเนินมายาวนาน มติดังกล่าวผ่านการรับรอง หลังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงและเป็นพันธมิตรอันยาวนานของอิสราเอลปฏิเสธการใช้สิทธิวีโต้เพื่อสนับสนุนอิสราเอล นายกรัฐมนตรีเนทันญาฮูยืนกรานจะไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของคณะมนตรีความมั่นคง พร้อมเผยว่าเขาสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลทบทวนการติดต่อสัมพันธ์กับยูเอ็นในทุกระดับ รวมทั้งการให้ทุนอุดหนุนหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดสหประชาชาติ และการสนับสนุนผู้แทนยูเอ็นประจำอิสราเอล เนื่องจากเห็นว่ามติของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นมีอคติและน่าละอายอย่างยิ่ง โดยการทบทวนความสัมพันธ์กับยูเอ็นจะใช้เวลาพอสมควร ทั้งนี้ ปัจจุบันมีนิคมชาวยิวตั้งอยู่ในเขตเวสต์แบงก์และเยรูซาเล็มตะวันออกราว 140 แห่ง รวมมีชาวยิวอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 500,000 คน

**10.29F174**