บริษัทต้นสังกัดคนขับรถบรรทุกเมาไอซ์ชนดะ รถเสียหายกว่า 40คัน รับชดใช้ให้คู่กรณีส่วนเกินนอกเหนือประกัน

23 ธันวาคม 2559, 11:19น.


หลังจากนายเอกพจน์ ยศศิริ อายุ27 ปี พนักงานขับรถส่งวัสดุก่อสร้าง ของบริษัท ชัยภิวัฒน์ จำกัด ได้ก่อเหตุขับรถบรรทุก 6 ล้อ ชนรถยนต์เสียหายกว่า 42คัน เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. โดยตรวจพบว่ามีปัสสาวะเป็นสีม่วง และค้นตัวพบยาไอซ์หนัก 1.93 กรัม วันนี้ ที่สถานีตำรวจนครบาล ทองหล่อ มีการเจรจากับตัวแทนประกันภัยฝ่ายผู้เสียหาย โดยมีพ.ต.อ.เอกสุชาติ คล้ายจันทร์พงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เป็นคนกลาง เพื่อชดใช้ค่าเสียหายให้กับคู่กรณีที่มีประกันชั้น 3 และไม่มีประกัน ซึ่งยอดล่าสุดมีรถเสียหาย รวม 42 คัน แบ่งเป็น รถยนต์ 34 คัน และรถจักรยานยนต์ 8 คัน นอกจากนี้มีตัวแทนร้านค้าต่างๆที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุดังกล่าวเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย



ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเอกพจน์ไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมตั้ง 7 ข้อกล่าวหาได้แก่ มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย / ข้อหาเสพยาเสพติด / ขับรถขณะเสพยา / ไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ / ฝ่าสัญญาณไฟจราจร / ฝ่าสัญญาณมือเจ้าหน้าที่ / และหลบหนีเจ้าพนักงานโดยไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ





นายนราวิศ แสงแจ่ม ผู้จัดการเขตสินไหมรถยนต์ สินมั่นคงประกันภัย เปิดเผยว่า เบื้องต้นความเสียหายทั้งหมด 42 คัน โดยเบื้องต้นมาติดต่อ จักรยานยนต์ 10 คัน แท็กซี่ 7-8 คัน ส่วนที่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลไม่มีประกันภัยอยู่ที่ 2-3 คัน ซึ่งตัวเลขวงเงินเกินประกันภัยแน่นอน ซึ่งตัวเลขรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายมากสุดโดยคาดว่าเป็นหลักแสนเพราะอะไหล่นำเข้าจากยุโรป ซึ่งวงเงินส่วนเกินตัวแทนบริษัทชัยภิวัฒน์ยินดีชดใช้โดยให้ประกันภัยเป็นผู้ประสานงานให้ ส่วนเงินเยียวยาค่าเสียเวลาได้มอบหมายให้ทางประกันภัยได้ข้อมูลเพื่อพูดคุยอีกครั้ง ซึ่งที่สุดแล้วอาจจะต้องมีบ้างเป็นบางส่วน







ด้านนายสุธีร์ บุตรพรม อายุ 34 ปี หัวหน้าฝ่ายขนส่งบริษัทชัยภิวัฒน์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้มอบหมายให้บริษัทสินมั่นประกันภัยได้ประเมินค่าเสียหายทั้งหมด สำหรับวงเงินค่าเสียหายที่อยู่ในวงเงินของบริษัทประกันมีวงเงิน 600,000 บาท  แต่จากการประเมินคาดว่าค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท โดยวงเงินที่เกินกว่าที่ประกันภัยกำหนด บริษัทซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายเอกพจน์ก็ยินดีชดใช้ในทุกกรณี



นายสุธีร์ เล่าถึงพฤติกรรมของนายเอกพจน์ ว่า เข้ามาทำงานที่บริษัทได้ประมาน 4 เดือน ซึ่งช่วงแรกที่เข้ามาทำงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่มีการทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน และไม่ทราบว่านายเอกพจน์ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งโดยปกติบริษัทจะทำการสุ่มตรวจสารเสพติดเดือนละ 1-2 ครั้ง โดยหลังจากนี้ยอมรับว่า บริษัทต้องเข้มงวดกับการรับคนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็กำลังรวบรวมข้อมูลของพนักงานขับรถในบริษัทอีกจำนวน 31 คน เข้าทำประวัติตรวจสารเสพติดและเข้าตรวจประวัติกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ



ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี

ข่าวทั้งหมด

X