ส่งโรดแมปแก้ปัญหาใต้เข้าที่ประชุมคปต.วันนี้ /กรธ.พิจารณาพรป.พรรคการเมืองกำหนดจ่ายเงินสส./แก้ระบอบอุปถัมภ์ในระบบราชการไทย

23 ธันวาคม 2559, 08:12น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมผู้แทนพิเศษของรัฐบาลครั้งที่ 4เพื่อแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ได้สั่งการให้ผู้แทนพิเศษจัดทำขึ้นและเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม และในวันนี้(23 ธ.ค.) จะเสนอพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะประธานคปต. พิจารณารายละเอียดและอนุมัติ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป  สำหรับ โรดแมปแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการกระชับและบูรณาการแผนงานโครงการ โดยเน้นใน 3 ด้าน คือความมั่นคง การพัฒนาและทำความเข้าใจประชาชน มุ่งให้แผนงานและโครงการครอบคลุมทุกพื้นที่และมีความเข้มข้นในระดับชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนในพื้นที่สถานการณ์ในพื้นที่อยู่ในช่วงการถ่ายโอนจากทหารไปยังประชาชนหรือประชาชนกึ่งทหาร โดยตั้งแต่ปี 2556 ได้ตั้งชุดคุ้มครองตำบลขึ้นในพื้นที่ได้ร้อยละ 80 เหลืออีกร้อยละ20 ที่ต้องฝึกเพิ่ม ส่วนการแก้ปัญหายาเสพติดได้จัดตั้งหมู่บ้านต้นแบบ ชุมชนเข้มแข็งแล้ว 300 หมู่บ้าน 20 ตำบล และมีแผนสร้างหมู่บ้านต้นแบบอีก 200 หมู่บ้าน โดยใช้จิตอาสาในพื้นที่ 400 คน ทำความเข้าใจและอธิบายถึงโทษภัยยาเสพติดแก่ประชาชนในพื้นที่



+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม ประธานได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าพล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ได้ลาออกจากสมาชิก สนช. โดยได้ยื่นหนังสือลาออกเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.และมีผลในวันเดียวกัน จึงทำให้สมาชิกสนช.เหลือ 247 คน จำนวนกึ่งหนึ่งคือ 123 คนพล.อ.กัมปนาท ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ถึงเหตุผลการลาออกว่า ยังบอกไม่ได้  ขอให้รอดูต่อไป



+++ส่วนการปรับแก้ร่างพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง  นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยความคืบหน้า การปรับแก้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า กรธ. ได้เพิ่มมาตราใหม่ ว่าด้วยข้อกำหนดกรณีที่พรรคการเมือง ซึ่งประสงค์จะจ่ายค่าตอบแทน หรือ เงินเดือนให้กับสมาชิกพรรค ที่มีตำแหน่ง ส.ส. ต้องทำบัญชีและชี้แจงรายการ พร้อมกำหนดอัตราการจ่ายค่าตอบแทนไว้ให้ชัดเจนและประกาศให้ทราบ พร้อมกับต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามรายการที่แจ้งไว้ ขณะนี้กรธ. ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อความเห็นให้ปรับแก้ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยกกต. แล้ว โดย กรธ. จะนำรายละเอียดมาพิจารณาในวันที่ 23 ธ.ค.



+++ส่วนการประชุม สนช. วันที่ 23 ธ.ค. สนช. มีวาระพิจารณารายงานเรื่อง "การแก้ไขปัญหาระบบอุปถัมภ์ในระบบราชการไทยให้เป็นรูปธรรม" ของ คณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาการศึกษาการแก้ไขปัญหาระบบอุปถัมภ์ ที่มี พล.ร.อ.ศักดิ์สิทธิ เชิดบุญเมือง เป็นประธาน โดยในรายงานได้สรุปปัญหา ที่ทำให้ระบบราชการไทยไม่พัฒนา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ "ระบบอุปถัมภ์" ที่ไม่ยึดความรู้ความสามารถ ทำให้คนเก่งคนดีไม่สามารถอยู่ในระบบได้ โดยในรายงานได้เสนอแนะการแก้ปัญหาหลายข้อ ครอบคลุมทั้งด้านบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ และสังคม มีข้อเสนอให้ยกระดับการแก้ปัญหาอุปถัมภ์เป็นวาระแห่งชาติ และต้องมีประมวลจริยธรรมที่ปฏิบัติอย่างจริงจัง อาทิ การห้ามรับของขวัญ ห้ามรับสินบน หรือเล่นกอล์ฟกับผู้มีส่วนได้ประโยชน์ ห้ามข้าราชการที่เกษียณอายุ เป็นที่ปรึกษาให้ภาคธุรกิจ ที่ข้าราชการผู้นั้นเคยมีอำนาจในหน่วยราชการนั้น ๆ อย่างน้อย 2 ปี ตลอดจนการกำหนดระเบียบลดผู้ติดตาม เพื่อลดโอกาสใช้ความใกล้ชิด ประจบสอพลอ ทำให้เกิดการอุปถัมภ์ที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ที่ทำงานในระบบปกติ



+++ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้นัดไต่สวน นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ผู้ต้องหาคดีหมายเลขดำที่ ฝ.2322/2559 และ นายประกัน ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น กรณีขอให้เพิกถอนสัญญาประกันตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ผู้ต้องหาคดีแชร์บทความพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ "pai jatupat" จากเว๊บไซต์ BBC Thai ซึ่งเข้าข่ายหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ โดยพิมพ์ข้อความในเชิงเยาะเย้ยเจ้าพนักงาน หลังได้รับประกันตัวเป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท และพิมพ์ข้อความว่า "เศรษฐกิจมันแย่แ...งเอาแต่เงินประกัน"หลังการไต่สวนคำร้อง ศาลได้มีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกันตัว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ผู้ต้องหา และอนุญาตฝากขังผลัดที่ 1 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดขอนแก่นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทั้งนี้นายอธิพงษ์ ภูผิว ทนายความ เปิดเผยว่า จะได้ทำคำร้องเพื่ออุทธรณ์คำสั่งถอนประกันต่อไป



+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ และนายวชิระ คูณทวีเทพ รองผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการวิจัยทางธุรกิจ เรื่อง 10 อันดับธุรกิจเด่น และดาวร่วงในปี 2560 โดยระบุว่า ธุรกิจบริการทางการแพทย์ และความงาม ยังครองอันดับ 1 ธุรกิจเด่นปี 2560 โดยอยู่ในอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 และคาดว่าจะยังโดดเด่นต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 3-5 ปี ส่วนอันดับ 2 คือธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว และธุรกิจคอมเมิร์ซ อยู่ในอันดับที่ 3 เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ทำให้นิยมซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เทรนด์ใหญ่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า คือการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างชัดเจนขึ้น หลังจากรัฐบาลได้ลงทุนปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี การก้าวเข้าสู่สังคมเมือง สิ่งที่ภาคธุรกิจจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ขณะที่ธุรกิจดาวร่วงในปีหน้า 10 อันดับแรกได้แก่ ธุรกิจฟอกย้อม, ธุรกิจหัตถกรรม, ธุรกิจนิตยสาร หนังสือและหนังสือพิมพ์, ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ เนื่องจากบางธุรกิจ ความต้องการของตลาดลดลง มีรายได้ลดลง แต่ต้นทุนยังเท่าเดิมหรือเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจชะลอตัวและปิดตัวลง ประกอบกับเมื่อเข้าสู่สังคมดิจิทัล เกิดธุรกิจใหม่ทดแทนธุรกิจเดิม นอกจากนี้ธุรกิจดั้งเดิม เช่น ร้านโชห่วย ธุรกิจผลิตสินค้าหรือบริการที่ยังล้าหลัง ไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคสมัยใหม่ หากไม่ปรับตัวก็จะอยู่ยาก และหายๆ ไป



+++วันนี้ สสส.ร่วมกับสธ. แถลง “กลับบ้านปลอดภัยใส่ใจเพื่อนร่วมทางปีใหม่ 2560  ส่วนช่วงบ่าย ศาลยุติธรรม พบสื่อมวลชน ที่อาคารศาลอาญาแถลงผลการทำงานของศาลในปีงบประมาณ 2559 และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดงานยกย่องเชิดชูเกียรติชุมชนหน่วยงานและองค์กรดีเด่นด้านวัฒนธรรม ประจำปี 2559 ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย



+++ประชุม สนช.มีมติในวาระสาม เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 194 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้มุ่งให้รัฐบาลเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษี แต่ต้องการปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสมกับยุคสมัย รวมทั้งปรับคำนิยามให้สอดคล้องกับภาวะปัจจุบัน ภาษีบางอย่างมีการจัดเก็บเพิ่มเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเงินเฟ้อ และเหมาะกับภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตด้วย รวมถึงตั้งกองทุนเพื่อจัดสรรภาษีเพื่อรักษาสุขภาพที่เชื่อว่าจะได้รับผลกระทบจากสินค้าฟุ่มเฟือยและไม่เป็นประโยชน์กับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมด้วย



+++นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สปส.เล็งเห็นความสำคัญในการตรวจสุขภาพของผู้ประกันตน เนื่องจากเป็นสิทธิที่ควรได้รับ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2560 เป็นต้นไป โดยสิทธิประโยชน์การให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ได้กำหนดให้ผู้ประกันตนทุกคนเข้ารับบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกัน ปีแรก คาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาท ผู้ประกันตนที่เข้ารับบริการตรวจสุขภาพนั้น จะสามารถตรวจสุขภาพพื้นฐานได้ อาทิ ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจการทำงานของไต เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง โดยจะดูตามอายุ และความจำเป็น อาทิ การตรวจเต้านมโดยแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุข ผู้ประกันตนอายุ 30-39 ปี ตรวจได้ทุก 3 ปี แต่ถ้าอายุ 40-54 ปี ตรวจได้ทุกปี หรือการตรวจน้ำตาลในเลือด อายุ 35-54 ปี ตรวจทุก 3 ปี แต่ถ้าอายุ 55 ปีขึ้นไปตรวจได้ 1 ครั้งต่อปี หรือการเอกซเรย์ทรวงอก Chest x-ray อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจได้ปีละ 1 ครั้ง โดยรัฐมนตรีแรงงานจะมีการแถลงอีกครั้งในวันที่ 29 ธ.ค. ซึ่งจะรวมถึงสิทธิการทำฟันด้วย



+++ปิดท้าย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต โฆษกสาธารณสุข เผย ด้วงก้นกระดก มีประโยชน์ในการควบคุมแมลงศัตรูพืชตามธรรมชาติ ปกติด้วงชนิดนี้จะไม่กัดหรือต่อยคน แต่หากด้วงตกใจหรือถูกตี ถูกบีบ บดขยี้จะปล่อยน้ำพิษที่ชื่อว่า เพเดอริน (Paederin) ออกมาเพื่อป้องกันตัว พิษส่วนใหญ่จะทำให้เกิดผื่นแพ้ แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ข่าวทั้งหมด

X