บก.จร.ประสานวิศวกรแก้ระบบเว็บถูกแฮก/แจ้งข้อหาเพิ่มผู้ต้องหาเมายา เร่งเยียวยารถเสียหาย/ติดประกาศนำจับคนขับรถพุ่งชนกลางตลาดกรุงเบอร์ลินทั่วยุโรป

22 ธันวาคม 2559, 14:16น.


+++นายสุธน อาณากุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร(กทม.)  ในฐานะรักษาราชการผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวว่า ขณะนี้ได้เสนอแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเทศกาลปีใหม่ 2560 ช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2559-4 ม.ค. 2560 เพื่อให้พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. พิจารณาให้ความเห็นชอบ เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกๆ ปี จะเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ถนน การเดินทางของประชาชนส่วนใหญ่จะเลือกเวลาการเดินทางในช่วงเวลากลางคืน และใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางเป็นหมู่คณะ โดยบางกลุ่มจะมีการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จึงเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ประกอบกับในช่วงเทศกาลปีใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีการจราจรน้อย ทำให้มีการขับขี่ด้วยความเร็วสูงกว่าปกติโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ จึงเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น  

+++ในปีนี้ กำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2559 ถึง 4 ม.ค.2560 ภายใต้ชื่อการรณรงค์ ขับรถมีน้ำใจรักษาวินัยจราจร เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงและลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บในเขตกรุงเทพฯ ให้เหลือน้อยที่สุด โดยได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 อีกทั้งเตรียมความพร้อมกล้องวงจรปิด ระบบการบริการการแพทย์ฉุกเฉิน บุคลากร เครื่องมือและอุปกรณ์ ซักซ้อมการช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุ   



+++สถิติการเกิดอุบัติเหตุในเขตกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2558 เกิดอุบัติเหตุ จำนวน 23 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 22 ราย เสียชีวิต 8 ราย ขณะที่ ปี 2557 เกิดอุบัติเหตุ 25 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 26 ราย และเสียชีวิต 12 ราย ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ร้อยละ 63 และจุดที่เกิดอุบัติเหตุ บ่อยครั้งมากที่สุด ในบริเวณทางตรง คาดว่าเกิดจากการขับขี่รถเร็วเกินกำหนด เมาสุราแล้วขับ และการขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด



+++กรณีนายเอกพจน์ ยศศิริ อายุ 27 ปี ชาวศรีสะเกษ ขับรถบรรทุกหกล้อชนรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประชาชนที่สัญจรไปมาบนท้องถนน มาตั้งแต่ท้องที่ สน.พญาไท สน.มักกะสัน และ สน.ทองหล่อ ระยะทางทั้งสิ้นกว่า 5 กิโลเมตร รถเสียหายกว่า 41 คัน ก่อนจะมาถูกจับกุมได้ที่ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เอกมัย พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา



+++เรื่องการเยียวยาผู้เสียหายเจ้าของรถในท้องที่ สน.ทองหล่อ 31 คัน และสน.มักกะสัน อีก 10 คัน บริษัทประกันภัย ได้ประสานมาแล้ว โดยมีวงเงินเยียวยาเบื้องต้น รวมทั้งหมด 6 แสนบาท อย่างไรก็ตาม หากรถของผู้เสียหายรายใด ที่มีวงเงินมูลค่าความเสียหายมากกว่านี้ ต้องฟ้องร้องคดีแพ่งกับบริษัทต้นสังกัดของผู้ต้องหา หรือให้บริษัทประกันภัยเยียวยาเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนบริษัทต้นสังกัดของผู้ต้องหา ยังไม่ได้ประสานการเยียวยาผู้เสียหาย ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ต้องสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากตามกฎหมายสามารถควบคุมผู้ต้องหาได้ 48 ชั่วโมง ก่อนจะนำตัวส่งฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันที่ 23 ธ.ค.



+++พ.ต.อ.ขจรพงศ์ กล่าวว่า ได้แจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหาคือ ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร และฝ่าฝืนสัญญาณมือเจ้าพนักงาน จากที่แจ้งไปแล้ว 4 ข้อหา คือ เสพยาเสพติด มียาเสพติดไว้ในครอบครอง ขับรถยนต์โดยประมาทเฉี่ยวชนรถผู้อื่นได้รับความเสียหาย และขับรถหลบหนีโดยไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและแจ้งเจ้าพนักงาน นอกจากนี้กำลังพิจารณาตั้งข้อหา จำหน่ายยาไอซ์ โดยจะพิจารณาจากจำนวนที่ครอบครอง จากการตรวจสอบประวัติ ผู้ต้องหาเพิ่งทำงานกับบริษัทฯนี้ได้ 2 เดือน เคยถูกจับคดีเสพยาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง



+++ที่เรือนจำกลางเพชรบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี มีพิธีปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ได้รับการอภัยโทษ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2559 จำนวน 47 คน เป็น น.ช.จำนวน 41 คน และ น.ญ.จำนวน 6 คน หนึ่งในผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษคือ น.ญ.วิลสา จันทรบัญชร ภรรยา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องหาที่ต้องโทษฐานลักทรัพย์และรับของโจรก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้อ่านคำพิพากษา จำเลยที่ 2 ในคดีลักทรัพย์หรือรับของโจร เป็นรถปิกอัพโตโยต้า ไทเกอร์ ของนายสามารถ นุ่มจุ้ย อายุ 30 ปี และ น.ส.อรสา เกิดทรัพย์ อายุ 30 ปี สองสามีภรรยาชาว ต.ท่าไม้รวก ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งศาลพิพากษาว่า น.ส.วิลสา ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพนักงานสอบสวน จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 3 ปี 4 เดือน



+++พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 ธ.ค. เว็บไซต์ของกองบังคับการตำรวจจราจร ถูกกลุ่มแฮกเกอร์ แฮกเข้าระบบจริง โดยเป็นระบบที่ใช้สำหรับ admin เพื่อเข้าไปแก้ไขการจราจร และตรวจสอบการจราจรในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ใช้อัปเดตในเว็บไซต์ ภายหลังจากที่ทราบเรื่องว่าถูกแฮกเว็บไซต์ก็ได้ประสานให้วิศวกรด้านระบบของเอกชนที่ดูแลเว็บไซต์ของกองบังคับการตำรวจจราจร เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวทันที เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดระบบในส่วนที่ถูกแฮกเอาไว้ก่อน จนกว่าจะหาทางแก้ไขได้ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะใช้เวลานานมากน้อยแค่ไหน และจะมีผลกระทบ ต่อเว็บไซต์ของกองบังคับการตำรวจจราจรในส่วนใดบ้าง หากประชาชนคนใดจะเข้าไปใช้บริการของเว็บไซต์กองบังคับการตำรวจจราจร อาจจะยังไม่ได้รับความสะดวกในขณะนี้ โดยสามารถสอบถามข้อมูลจราจร โทรมายังหมายเลข 1197 ได้โดยตรง 

+++ขณะที่เพจของกลุ่ม พลเมืองต่อต้าน single gateway thailand internet firewall ได้โพสต์ข้อมูล เมื่อช่วง 19.30 น. วันที่ 21 ธันวาคม เกี่ยวกับวิธีการแฮกเข้าเว็บไซต์ของกองบังคับการตำรวจจราจร โดยมีการแจก username ของ admin และ password ในการเข้าระบบ โดยอ้างว่าสามารถเข้าไปลบข้อมูลการจราจร และปรับเปลี่ยนกล้องตามแยกต่าง ๆ ได้



+++หลังจากที่ สำนักงานอัยการสูงสุดเยอรมนี  เผยแพร่ภาพผู้ต้องสงสัยก่อเหตุขับรถบรรทุกพุ่งชนประชาชนที่ตลาดคริสต์มาส ในกรุงเบอร์ลิน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 48 คน  คือนายอานิส อัมรี สัญชาติตูนิเซีย อายุ 24 ปี สูง 178 เซนติเมตร ผมสีดำและตาสีน้ำตาล ขอให้ประชาชนแจ้งเข้ามายังเจ้าหน้าที่ทันทีหากพบบุคคลมีรูปพรรณสัณฐานลักษณะดังกล่าว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่ง นอกจากนี้ รัฐบาลเยอรมนี ยังประกาศพร้อมมอบเงินรางวัล 1 แสนยูโร หรือราว 3.78 ล้านบาท  ให้บุคคลใดก็ตามที่สามารถแจ้งเบาะแสนำไปสู่การพบตัวและจับกุมผู้ต้องสงสัย โดยได้มีการติดประกาศนำจับนายอัมรีไปทั่วยุโรปด้วย เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าผู้ต้องสงสัยจะหลบหนี ขณะที่มีรายงานหน่วยคอมมานโดบุกค้นอพาร์ตเมนต์ 2 แห่งในย่านครอยซ์แบร์กของกรุงเบอร์ลิน แต่ไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับนายอัมรี  และมีการประสานงานไปยังทางการตูนิเซีย ซึ่งควบคุมตัวสมาชิกในครอบครัวของนายอัมรีมาสอบปากคำ โดยนายอับเดลคาเดอร์ อัมรี พี่ชายของนายอัมรี กล่าวว่ารู้สึก ช็อกมาก เมื่อตำรวจเยอรมนีระบุว่าน้องชายคือคนร้าย 



+++ด้านสำนักงานมหาดไทยแห่งรัฐนอร์ตไรน์เวสต์ฟัลเลน ทางตะวันตกของเยอรมนี เปิดเผยว่า นายอัมรีเดินทางเข้ามาเมื่อเดือนก.ค. ปีที่แล้ว และยื่นคำร้องขอสถานะผู้ลี้ภัยถาวรด้วยแต่ได้รับการปฏิเสธ ซึ่งตามกฎหมายต้องมีการเนรเทศกลับตูนิเซีย แต่ยังไม่สามารถทำได้เนื่องจากนายอัมรีแจ้งว่าทำเอกสารการเดินทางหาย ส่งผลให้รัฐบาลตูนิเซียไม่ยอมรับว่าชายผู้นี้เป็นพลเมือง ด้านกลุ่มไอเอสรับสมอ้างเป็นผู้บงการให้นายอัมรีลงมือก่อเหตุ



cr. FB. Petch J. Twezinn



 

ข่าวทั้งหมด

X