รองผู้ว่ากทม. สุ่มตรวจกระเช้าปีใหม่ ต้องได้มาตรฐาน ห้ามบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงกระเช้า

มาตรฐานสินค้าในกระเช้าเพื่อมอบเป็นของขวัญ ในเทศกาลปีใหม่ 2560 โดยนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ บริเวณกรูเมต์มาร์เก็ต  ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยพบว่า กระเช้าของขวัญปีใหม่ ที่ประชาชนจะนำไปมอบให้แก่กัน ในเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึง กรุงเทพมหานครได้หารือกับผู้ประกอบการที่เป็นพันธมิตร เพื่อขอความร่วมมือ ในเรื่องมาตรฐานของสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน สำหรับปีนี้ได้มีการกำหนดมาตรฐานสินค้าในกระเช้าของขวัญ แบ่งเป็น 5 ลักษณะ ประกอบด้วย สินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปขนาดใหญ่ ใส่บรรจุภัณฑ์ จะต้องมีอายุที่เหลือบริโภคไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันที่ซื้อ รวมทั้งผู้บริโภคจะต้องตรวจสอบวันผลิต วันหมดอายุ คุณภาพของสินค้าบรรจุภัณฑ์ ก่อนว่าจะต้องๆไม่ชำรุดเสียหาย นอกจากนี้สินค้า ลักษณะเป็นสินค้าชุมชน สินค้า OTOP และสินค้าทางเลือก เช่น สินค้าสุขภาพ ก็ต้องใช้หลักเกณฑ์ในการตรวจสอบเดียวกัน

ส่วนสินค้าลักษณะ ผักสด ผลไม้ ต้องจัดใส่กระเช้าไม่เกิน 3 วัน หรือหากเป็นวันต่อวันก็จะดีที่สุด เนื่องจากสินค้าประเภทนี้เน่าเสียเร็ว และในปีนี้ ได้งดการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาจัดใส่กระเช้า ซึ่งก็ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบด้วย หากพบการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาจัดลงกระเช้า จะเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะที่เป็นการบังคับซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยทางตรงหรือทางอ้อม เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 30 มีโทษจำคุกไม่เกินหก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

กรุงเทพมหานครได้เป็นพันธมิตรร่วมกับห้างร้านหลายแห่ง ซึ่งสังเกตได้จากป้ายสีชมพู เขียนว่า สถานประกอบการแห่งนี้ ได้เข้าร่วมโครงการควบคุมคุณภาพสินค้า ของกรุงเทพมหานคร ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 หากพบป้ายนี้ก็มั่นใจได้ว่า จะได้รับสินค้ามีคุณภาพดีตามเกณฑ์ที่กำหนด และยังสามารถคืนกระเช้าได้ หากพบว่า สินค้าในกระเช้านั้น ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ไม่ระบุวันหมดอายุ วันที่ผลิต สินค้ามีการชำรุดเสียหาย ซึ่งสามารถคืนได้ภายในวันที่ 28 ธ.ค. ส่วนห้างร้านที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการกับทางกรุงเทพมหานคร ประชาชนก็สามารถคืนกระเช้าได้เช่นกัน หากพบว่าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน และหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากห้างร้าน ก็สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานเขตของห้างร้านนั้นๆ  ส่วนในร้านค้าขนาดเล็ก กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทั้ง50เขต ลงพื้นที่สุ่มตรวจ หากพบร้านค้าที่กระทำความผิดจะมีการตักเตือนเพื่อให้แก้ไขต่อไป