อดีตทูตสหรัฐฯเผยเหตุลอบสังหารทูตรัสเซียประจำตุรกีบ่งชี้ว่าสถานการณ์ในตุรกีอาจจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า 2 วันหลังคนร้ายคือนายเมฟลุต เมิร์ต อัลตินตาส ตำรวจตุรกีวัยอายุ 22 ปี สังหารนายอังเดรย์ คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีเสียชีวิต ขณะกล่าวสุนทรพจน์ในหอแสดงงานศิลป์ในกรุงอังการาเมื่อเย็นวันจันทร์ โดยมือปืนตะโกนขึ้นว่าอย่าลืมสงครามกลางเมืองในเมืองอเล็ปโปของซีเรีย นายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์ อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศอิรัก กล่าวว่าเหตุรุนแรงครั้งนี้เป็นเพียงกลุ่มอาการอย่างหนึ่งของโรคร้ายคือ การเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปทั่วประเทศตุรกี ระบุว่าเหตุลอบสังหารเอกอัครราชทูตรัสเซียในตุรกีในครั้งนี้เปรียบเสมือนคลื่นใต้น้ำเชี่ยวกรากหรือกระแสความขัดแย้งที่คุกรุ่นมานาน เพิ่งจะปรากฏให้เห็นเด่นชัดมากขึ้นในระยะนี้

เขาเพิ่มเติมว่าทุกฝ่ายคงต้องเฝ้าติดตามว่าเหตุการณ์นี้จะมีผลอย่างไรต่อไป เขาเพิ่มเติมว่าเหตุการณ์นี้แสดงว่ามีเหตุการณ์ที่ผิดปกติเกิดอะไรขึ้นในตุรกี โดยเฉพาะกับรัฐบาลของประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกี หลังเหตุความพยายามรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อเดือนกรกฏาคม เขาเชื่อว่าสถานการณ์ในตุรกีอาจจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลตุรกีกล่าวหานายเฟตฮุลเลาะห์ กูเลน ครูสอนศาสนาอิสลามชาวตุรกีที่ขณะนี้ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ และเป็นเสมือนไม้เบื่อไม้เมากับประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกีว่าอยู่เบื้องหลังเหตุลอบสังหารครั้งนี้

นอกจากนี้รัฐบาลตุรกีตำหนิรัฐบาลสหรัฐฯที่ให้ที่ลี้ภัยแก่นายกูเลนและไม่ยอมส่งตัวเขากลับไปดำเนินคดีในตุรกีในฐานะผู้ร้าย ด้านนายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวถึงกรณีการตำหนิสหรัฐฯในเรื่องนี้ว่าไร้สาระ