ผ่านไปเกือบ 3 ปีนับตั้งแต่เที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์สูญหายเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 พร้อมคนบนเครื่อง 239 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ขณะบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างแถลงการณ์ของสำนักงานความปลอดภัยการคมนาคมของออสเตรเลีย(เอทีเอสบี)ว่า รายงานล่าสุดบีบ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ทีมค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 อาจจะค้นหาซากเครื่องบินผิดจุด
เอทีเอสบีเสนอแนะว่า จากผลการวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับซากชิ้นส่วน แบบจำลองเที่ยวบินและการสื่อสารผ่านดาวเทียมครั้งสุดท้ายของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ทีมค้นหาควรจะเปลี่ยนจุดค้นหาไปยังตำแหน่งใหม่ คือพื้นที่25,000 ตารางกม.ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจุดค้นหาเดิม รายงานนี้ถูกเผยแพร่ในวันนี้ เป็นผลพวงจากการประชุมประเมินความคืบหน้าของการค้นหาเที่ยวบินนั้นในกรุงแคนเบอร์รา ระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน แต่นายดาร์เรน เชสเตอร์ รัฐมนตรีสาธารณูปโภคและคมนาคมออสเตรเลียระบุว่าหากไม่พบหลักฐานใหม่อย่างชัดเจน ทีมค้นหาจะไม่ขยายพื้นที่ค้นหาเพิ่มเติมจากจุดเดิม ที่สำคัญคือทีมค้นหาใกล้จะเสร็จช่วงสุดท้ายของค้นหาในจุดเดิมที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 120,000 ตารางกม.ภายในต้นปีหน้า อีกทั้งทีมค้นหายังมีความหวังว่าอาจจะพบซากเครื่องบินในจุดสุดท้ายที่เหลืออยู่
ที่ผ่านมาแม้ว่าการค้นหาในจุดเดิมยังไม่พบซากเครื่องบินแม้แต่ชิ้นเดียว แต่นับแต่ปี 2557 มีซากชิ้นส่วนกว่า 20 ชิ้นที่ถูกพบลอยไปเกยตื้นอยู่ตามชายหาดและเกาะหลายแห่งของทวีปแอฟริกาได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่อาจจะมาจากเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ขณะเดียวกันครอบครัวผู้โดยสารวิงวอนให้ทีมค้นหานานาชาติที่มีออสเตรเลียเป็นแกนนำ ค้นหาต่อไป บางคนยอมเสียค่าใช้จ่ายเองเดินทางไปยังประเทศมาดากัสการ์และประเทศมอริเชียส นอกชายฝั่งทวีปแอฟริกาเพื่อขอให้คนท้องถิ่นร่วมค้นหาซากเครื่องบินเช่นกัน.