นายกฯ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการปรับครม. ทำเพื่อประเทศชาติ

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการประชุมครั้งแรก หลังมีการปรับคณะรัฐมนตรี เนื่องจากมีตำแหน่งรัฐมนตรีบางตำแหน่งที่ยังว่างอยู่  โดยได้กล่าวต้อนรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยทำงานร่วมกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ได้มีการมอบนโยบายทั้งในส่วนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนโยบายของรัฐบาลโดยขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการบริหารราชการ ที่ยังคงเอาความคิดของประชาชน ภาคเอกชนและหน่วยงานต่างๆ มาเป็นแนวทางอยู่เสมอ ซึ่งไม่อยากให้การทำงานนั้น มีการแบ่งแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย โดยได้ให้ความสำคัญว่า การทำงานจะต้องมีผลสัมฤทธิ์ที่เห็นชัด สามารถตอบปัญหาของสังคมได้ ทั้งนี้ในการประชุมได้มีการมอบหมายหน้าที่ให้คณะรัฐมนตรีตามความเหมาะสมและสอดคล้อง ภาพรวมของการปรับคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้โดยส่วนตัวพอใจ เพราะเป็นคนปรับเอง

อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มองที่ตัวบุคคลที่มาดำรงตำแหน่ง แต่อยากให้เชื่อมั่นการทำงานของตนเองที่คำนึงถึงประเทศชาติเสมอ และไม่อยากให้มองในเรื่องของการเมือง เพราะจะทำให้การทำงานนั้นเป็นไปได้ยาก แต่ให้มองในกระบวนการทำงานของรัฐบาล ทั้งนี้ ในการเลือกคณะรัฐมนตรีไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไว้ใจทุกคนเท่ากัน ส่วนจะทำงานได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที   โดยเน้นที่จะให้การทำงานนั้น คำนึงถึงคนทั้ง 3 ระดับไม่ว่าจะเป็นระดับบน ระดับกลาง และระดับล่าง ซึ่งจะต้องดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดยเฉพาะคนในระดับล่างที่จะต้องเห็นใจเขาอย่างแท้จริง รู้จักทำความเข้าใจและแบ่งปัน

ส่วนการให้ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แทนพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ไม่ได้ให้มาดูคดีใดเป็นพิเศษ การทำงานต่างๆเป็นเรื่องของคณะทำงาน

สำหรับกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตนเองไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นอยู่แล้ว  และได้ถามกลับว่า พล.อ.ประวิตรทำงานบกพร่องตรงจุดไหน

ส่วนในการประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็จะมีการประชุม ในวาระที่สำคัญ ว่าประเด็นใดบ้างที่จะต้องมีการใช้มาตรา 44 เพื่อให้เกิดความสงบสุขและแก้ไขปัญหาบ้านเมือง และในการประชุม คสช. ได้มีการติดตามความคืบหน้าคดีใหญ่ที่ยังคงคั่งค้างและมีผลกระทบต่อคนส่วนมาก โดยส่วนตัวพอใจในการแก้ปัญหา ทั้งนี้การแก้ไขคดีที่ยังค้างอยู่  ก็เป็นการเรียกร้องให้เกิดกระบวนการยุติธรรมและให้มีความขัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก