ความคืบหน้าเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจตุรกีจ่อยิง นายอังเดรย์ คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี ขณะที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์ในนิทรรศการศิลปะชื่อ รัสเซียจากมุมมองของชาวเติร์ก ภายในหอแสดงงานศิลป์ในกรุงอังการา โดยเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน และเป็นเหตุการณ์ที่มีสื่อหลายสำนักบันทึกภาพเอาไว้ได้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ทั้งนี้ หลังจากที่ยิงเอกอัครราชทูตแล้ว คนร้ายยังตะโกนเป็นภาษาอาหรับและภาษาเตอร์กิชเกี่ยวกับเมืองอเลปโปในซีเรียโดยขอว่าอย่าลืมอเลปโป อย่าลืมซีเรีย สลับกับการกล่าวสรรเสริญพระเจ้า โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.05 น. และเขาปฏิเสธการมอบตัวจึงถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญในอีก 15 นาทีถัดมา โดยเขายิงปืนไปทั้งสิ้น 8 นัดและทำลายภาพในนิทรรศการอีกหลายภาพ
ส่วนนายคาร์ลอฟไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เขามีอายุ 62 ปีเป็นนักการทูตในเกาหลีเหนือมานานกว่า 30 ปีและเพิ่งรับตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำตุรกีตั้งแต่ปี 2556
สำหรับมือปืนที่ก่อเหตุ คือนายเมฟลุต เมิร์ต อัลตินตาส อายุ 22 ปี เป็นตำรวจสังกัดหน่วยปราบจลาจลมานาน 2 ปีครึ่ง และเขาไม่ได้อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ลงมือก่อเหตุ
กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นการก่อการร้าย และเรียกร้องให้ทางการตุรกีให้หลักประกันว่า จะสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง และนำตัวผู้บงการก่อเหตุมาลงโทษ นอกจากนี้รัสเซียยังเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปตุรกีเพื่อติดตามกระบวนการสอบสวน
โดยเมื่อวานนี้ ยังมีการชุมนุมประท้วงรัสเซียที่เข้าไปแทรกแซงสงครามกลางเมืองซีเรีย ขณะที่ในระดับรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศกำลังเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้า หลังจากที่มีความขัดแย้งในหลายประเด็น
ซึ่งนอกจากนายอัลตินตาส จะถูกสอบสวนแล้ว บิดา มารดา และน้องสาวของเขาถูกสอบปากคำอยู่ที่บ้านทางตะวันตกของตุรกี ต่อมานายกเทศมนตรีอังการา ทวิตข้อความคาดการณ์ว่าตำรวจรายนี้อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มนายเฟตุลเลาะฮ์ กูเลน ที่ตุรกีเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกรกฎาคม
**