เตรียมมอบไม้จันทน์หอมให้สำนักช่างสิบหมู่/กรมสรรพากร ย้ำขอหลักฐานภาษีให้ครบช้อปช่วยชาติ/ออมสิน เสนอแพ็กเกจของขวัญปีใหม่เข้าครม.

19 ธันวาคม 2559, 19:55น.


+++นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯได้เตรียมไม้จันทน์หอมที่แปรรูปสำหรับสร้างพระบรมโกศไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมสำหรับการขนย้ายมายังสำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม เพื่อประกอบพิธีก่อสร้าง โดยเป็นไม้จันทน์หอม 1,461 แผ่น รวมทั้งหมด 4.57 ลบ.ม. วัดค่าความชื้นได้ระหว่าง 12-18% ซึ่งปริมาณความชื้นดังกล่าว ถือว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับการนำไปแกะสลักลวดลาย โดยไม่ต้องนำไม้ไปอบ โดยไม้จันทน์หอมจะถูกเคลื่อนย้ายออกมาจากอุทยานฯ กุยบุรี วันที่ 20 ธ.ค. ในเวลา 06.39 น. คาดว่า จะมาถึงสำนักช่างสิบหมู่ประมาณ14.00 น.เศษ จากนั้นจะมีพิธีส่งมอบไม้จันทน์หอม โดยพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรฯ ให้กับ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในเวลา 15.09 น.



+++นายสมชาย แสงรัตนมณีเดช รองอธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรเตือนประชาชนที่เข้าร่วมมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2559 ระหว่างวันที่  1-31 ธ.ค.2559 และมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ)  ที่ใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการในประเทศ ระหว่างวันที่  14 - 31 ธ.ค.2559 ว่าผู้เสียภาษีต้องนำมาใช้เป็นหลักฐานลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยว ซื้อสินค้าหรือใช้บริการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ในอัตราร้อยละ 7 ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท โดยต้องเรียกขอจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีแวต ทุกครั้ง เพื่อเป็นหลักฐาน



+++สิ่งสำคัญ คือผู้เสียภาษีต้องนำมาใช้เป็นหลักฐาน คือ ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป โดยเอกสารดังกล่าวต้องระบุ ชื่อ, นามสกุล ของผู้ที่จะใช้สิทธิ จำนวนเงิน วัน เดือน ปี ที่จ่ายเงิน การใช้สิทธิลดหย่อนในครั้งนี้สำหรับค่าใช้จ่ายที่มีสิทธินำมาลดหย่อน ในมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2559 ได้แก่  ค่าที่พักโรงแรม ซึ่งมีอาหารเช้ารวมในรายการที่พัก ค่าซื้อแพคเกจทัวร์ ท่องเที่ยวในประเทศโดยมีค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าเช่าเรือ ค่าเช่ารถ ค่าอาหาร ค่าเข้าชม การแสดง ค่าดำน้ำ รวมอยู่ในแพคเกจทัวร์ ส่วนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวที่ไม่สามารถนำมาลดหย่อน ได้แก่ ค่าซื้อเฉพาะตั๋วเครื่องบินจากผู้ประกอบการนำเที่ยว  ค่าซื้อแพคเกจทัวร์ในเดือนธ.ค.2559 เพื่อใช้ท่องเที่ยวในปี 2560 การจ่ายค่าที่พักในเดือนธ.ค.2559 เพื่อใช้เข้าพักในปี 2560 เป็นต้น  



+++ขณะที่ มาตรการภาษีช้อปช่วยชาติ กรมสรรพากร กำหนดหลักเกณฑ์ในการใช้สิทธิไว้ โดยค่าใช้จ่ายที่ได้สิทธิลดหย่อนภาษี เช่น ค่าซื้อสินค้าจากร้านสะดวกซื้อ หรือจากห้างสรรพสินค้า ค่าอาหารและเครื่องดื่มในร้านอาหารหรือในโรงแรม ค่าซื้ออุปกรณ์ตกแต่งรถ อะไหล่รถ ค่าซ่อมรถที่มีการซ่อมแล้วเสร็จและชำระค่าบริการ ในช่วงวันที่ 14 – 31 ธันวาคม 2559 ค่าบริการนวดหน้า ค่าบริการสปา ส่วนค่าใช้จ่ายที่นำมาลดหย่อนไม่ได้ เช่น ค่าซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ บุหรี่ น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ ค่าแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยว ค่าที่พักในโรงแรม ค่ารักษาพยาบาล ค่าซื้อทองคำแท่ง  และค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า  เป็นต้น



+++นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสธนาคารโลกประจำประเทศไทย  เปิดเผย รายงานตามติดเศรษฐกิจไทย ว่า ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตร้อยละ  3.1 และขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นร้อยละ 3.2 ในปี 2560 มาจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐโดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟรางคู่และการยกระดับระบบรางทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยดึงดูดเงินลงทุนจากภาคเอกชนและเสริมภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นนอกจากนี้ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวที่เป็นไปอย่างเข้มแข็งปีนี้ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 13.1 ยังเป็นแรงส่งต่อในปี 2560 ขณะที่ภาคการเกษตรฟื้นตัวหลังผ่านสถานการณ์ภัยแล้งที่รุนแรงยาวนาน ส่วนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและเลื่อนออกไปในช่วงการถวายความอาลัย  ได้รับการชดเชยจากมาตรการลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้าและบริการท่องเที่ยวในประเทศช่วงสิ้นปี



+++นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสธนาคารโลกประจำประเทศไทย เตือนว่า มีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกรณีที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit นโยบายการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ที่ยังไม่ชัดเจน รวมทั้งแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่ปรับเร็วขึ้นกดดันการส่งออกของไทย 



+++นายเกียรติพงศ์ กล่าวว่า การที่จีดีพี ขยายตัวเพียงร้อยละ 3 ต่อปี ถือว่าโตต่ำกว่าศักยภาพที่ควรเติบโตได้ถึงร้อยละ 4 ดังนั้น เสนอแนะให้รัฐบาลปฏิรูปภาคบริการให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันภาคบริการมีการจ้างงานสูงถึงร้อยละ 40 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด แต่สร้างมูลค่าได้เพียงร้อยละ 50 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)  หากเทียบกับภาคการผลิตที่มีสัดส่วนการจ้างงานเพียงร้อยละ 15 แต่สามารถสร้างมูลค่าได้ถึงร้อยละ 35 ของจีดีพี ดังนั้น ประเทศไทยควรปรับปรุงกฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ การออกใบอนุญาต เพื่อส่งเสริมให้มีการแข่งขันและเปิดกว้างให้ผู้เชี่ยวชาญสาขาบริการต่าง ๆ จากต่างประเทศเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยเกิดความร่วมมือด้านการค้ามากขึ้น ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วภาคบริการจะมีสัดส่วนถึงร้อยละ 70 ของจีดีพี ดังนั้นหากประเทศไทยเริ่มทำการปรับปรุงภาคบริการในทันทีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวเฉลี่ยได้ถึงร้อยละ 4-5 และมีโอกาสหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง



+++นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) ธนาคารจะเสนอแพ็กเกจของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนต่อที่ประชุม คณะรัฐมนตรี(ครม.) เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมข้ามเขตผ่านช่องทางต่างๆ การปล่อยกู้ลูกค้าเก่าที่มีประวัติดี คาดใช้วงเงินประมาณ 100 ล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดลดลง 0.11 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,522.40 จุด มูลค่าซื้อขาย 36,233.42 ล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ หลังเรือรบของจีนได้ยึดโดรนสำรวจใต้ทะเลของสหรัฐฯในทะเลจีน ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 188.07 จุด ปิดที่ 21,832.68 จุด นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายส่วนหนึ่งยังได้รับแรงกดดันจากการอ่อนแรงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านร่วงลงร้อยละ 18.7 ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิต ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะลดลงสู่ระดับ 1.23 ล้านยูนิต ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลงร้อยละ 4.7 ในเดือนพ.ย.

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเมื่อวันศุกร์ ปิดลบ 9.55 จุด ปิดที่ระดับ 19,391.60 จุด



CR:สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนะธรรม

ข่าวทั้งหมด

X