การลงพื้นที่ศึกษาดูงานร่วมกับคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายระพีพล ทับทิมทอง วิทยากรอาวุโส ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยถึงการพัฒนาพื้นที่ในศูนย์ศึกษากว่า 8,500ไร่ ซึ่งความสูงในพื้นที่จุดที่สูงที่สุดอยู่ที่ 580 เมตรจากระดับน้ำทะเล และจุดที่ต่ำที่สุดอยู่ที่ 340 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งในพื้นที่ไม่มีแหล่งน้ำเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จึงได้ใช้วิธีผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่ลายซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ ประมาณ 8 กิโลเมตร โดยให้สร้างฝายกั้นจากลำน้ำแม่ลาย ซึ่งอยู่สูงกว่าบริเวณศูนย์ศึกษา และให้น้ำล้นลงมาในพื้นที่ โดยส่งมายังบริเวณอ่างเก็บน้ำที่ 1 ซึ่งเมื่อน้ำจากลำน้ำแม่ลายมาถึงแล้ว พระองค์ท่านได้ให้แบ่งน้ำเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือการพัฒนาพื้นที่ในด้านการเกษตรต่างๆ อีกส่วนคือการแบ่งน้ำไปตามสันเขา และปล่อยน้ำลงมาตามร่องห้วย ประกอบกับให้สร้างฝายต้นน้ำลำธารเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น พร้อมกับปลูกต้นไม้และแนวลำห้วยขึ้นไปดังนั้นป่าจึงค่อยๆพัฒนาเพราะเกิดความชุ่มชื้นจากการผันน้ำ ซึ่งวิธีดังกล่าว พระองค์ท่านทรงเรียกว่าระบบป่าเปียก หรือการพัฒนาป่าด้วยระบบน้ำชลประทาน
ขณะที่ นายศรีอินทร์ อินทร์สัย เกษตรกรชาว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ กล่าวว่าจากเดิมก่อนที่มาทำเกษตรผสมผสานอย่างจริงจัง ประกอบอาชีพแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยวควบคู่กับการทำความไก่เนื้อและต้องประสบปัญหาไข้หวัดนกระบาดทำให้กิจกรรมเลี้ยงไก่ต้องเลิก ต่อมาได้ไปประกอบอาชีพขับรถรับ-ส่งนักเรียนและขับรถโดยสารรับจ้างในเมืองเชียงใหม่แต่รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย จึงมีแนวคิดที่จะหากิจกรรมเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง โดยหันมาทำเกษตรผสมผสานอย่างจริงจัง จึงได้เข้าศึกษาเรียนรู้รับการฝึกอบรมจากโครงการตีนตกและศูนย์การศึกษาพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ
ปัจจุบันได้ปลูกพืชสร้างรายได้ที่มีทั้งพืชอายุหลายปีแบบล้มลุก ปลูกพืชผักทำการเกษตรผสมผสาน และดูแลผักไฮโดรโปนิกส์ ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ขยายพันธุ์พืช เลี้ยงปลานิลและกบน้ำ ภายในพื้นที่ 6 ไร่ 2 งาน ขณะเดียวกันได้เปิดพื้นที่การเกษตรของตัวเองเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับผู้สนใจและจุดถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรให้กับประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจอีกด้วย ซึ่งที่นี่ยังถือเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ตั้งขึ้นแห่งแรกในอ.แม่ออน จ.เชียงใหม่อีกด้วย
นายศรีอินทร์ กล่าวว่า ชีวิตความเป็นอยู่ขณะนี้เพียงพอตลอดทั้งปี ซึ่งตัวเองได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาเพราะหากไม่ได้พระบารมีพระองค์ท่านเชื่อว่าแผ่นดินไทยคงจะไม่มีทฤษฏีใหม่เกิดขึ้น จึงถือว่าบุญคุณของพระองค์ท่านล้นเหลือสำหรับเกษตรกรไทย
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี