เกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงชาวโปแลนด์ ปิดล้อมทางออกทุกช่องทางของอาคารรัฐสภา หลังพรรคฝ่ายค้าน ระบุว่า ส.ส.พรรครัฐบาลใช้พื้นที่ด้านนอกห้องประชุมเป็นสถานที่ลงมติผ่านความเห็นชอบงบประมาณประจำปีถัดไป ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดรัฐธรรมนูญ ทั้งยังห้ามสื่อมวลชน มิให้บันทึกการลงมติ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าขัดขวาง แยกกลุ่มผู้ประท้วงให้ถอยห่างออกมาจากอาคาร พร้อมกับเรียกร้องให้สลายการชุมนุม แต่กลุ่มผู้ประท้วง ก็ตามมาสมทบอีกระลอก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสริมกำลัง นับเป็นการปะทะกันทางการเมืองครั้งใหญ่สุดในรอบหลายปีของโปแลนด์ โดยเฉพาะกรณีความขัดแย้งระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน นับตั้งแต่ครองอำนาจเมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขู่เตือนให้กลุ่มผู้ประท้วงยุติการปิดล้อม เพื่อเปิดทางให้ ส.ส.ที่ติดอยู่ภายใน เดินทางออกจากตัวอาคารรัฐสภาได้ มิฉะนั้น จะใช้ความรุนแรง โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมปืนพร้อมกระสุนยางแล้ว แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็ยังต้องการให้ผู้นำพรรครัฐบาลออกมาพบผู้ประท้วง ยังไม่มีรายงานจำนวน ส.ส. และเจ้าหน้าที่ประจำรัฐสภาที่ติดอยู่ด้านในตัวอาคารที่แน่นอน
อย่างไรก็ดี รายงานล่าสุดระบุว่า นายจาโรสลอว์ คักซินกี ผู้นำพรรครัฐบาล ได้เดินทางออกจากตัวอาคารรัฐสภามาได้แล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้กำลังและแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ประท้วง โดยนายคักซินสกี ได้มุ่งตรงไปยังรถยนต์ ก่อนขับออกไปจากบริเวณดังกล่าว พร้อมกับรถของนายกรัฐมนตรี ขณะที่ประธานรัฐสภาชี้แจงสาเหตุที่ต้องย้ายสถานที่ลงมติ เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านได้ยึดครองโพเดียมประท้วงแผนการควบคุมการเข้าถึงของสื่อมวลชน
ทีมต่างประเทศ
CR:REUTERS