รองผบ.ตร.นำผู้ต้องหาฆ่าโหดแท็กซี่ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ถ.พระราม2

ความคืบหน้าเหตุคนร้ายเรียกรถแท็กซี่และใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. บริเวณถนนพระราม 2 ในพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรบางโทรัด เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวคนร้าย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ คือบริเวณถนนทางเข้าบ้านบ่อ ม.1 ต.บ้านบ่อ  พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำตัวคนร้ายคือ นายMin Ye Aung สัญชาติเมียนมาร์ อายุประมาณ 22 ปี  มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเมืองจังหวัดสมุทรสาครและสถานีตำรวจภูธรบางโทรัดและเจ้าหน้าที่กองปราบปราม รวมถึงมีครอบครัวและเพื่อนที่ขับรถแท็กซี่กับนายสิทธิศักดิ์ ปรักมาศ อายุ 53 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ ผู้เสียชีวิตและชาวบ้านละแวกใกล้เคียงมามุงดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยคนร้ายมาถึงที่ก่อเหตุได้ก้มลงกราบรถพร้อมรับสารภาพด้วยสีหน้าเศร้าว่า ได้เรียกรถแท็กซี่ที่นายสิทธิศักดิ์ขับ จากบริเวณตำบลพันท้ายนรสิงห์ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เกิดการต่อสู้กันภายในรถและคนร้ายได้ใช้ปืน ที่อ้างว่าเป็นของนายสิทธิศักดิ์ ตีเข้าที่ศรีษะ จากนั้นนายสิทธิศักดิ์เปิดประตูรถวิ่งออกมา คนร้ายก็ตามออกมาเช่นกัน โดยทั้ง2วิ่งหนีรอบรถแท็กซี่อยู่หลายครั้ง ต่อมานายสิทธิศักดิ์ หกล้ม คนร้ายจึงใช้ปืนยิงนายสิทธิศักดิ์เสียชีวิต1นัด และหยิบเงินจากกระเป๋าสะพายข้างไป ก่อนจะเดินหลบหนีกลับทางเดิมที่เข้ามา ซึ่งระหว่างทางคนร้ายได้โยนปืนลงไปในบ่อเลี้ยงปลา ตรงที่เกิดเหตุ และทิ้งหมวกไว้ข้างทาง อย่างไรก็ตาม คนร้ายยังให้การปฏิเสธว่า อาวุธปืนไม่ใช่ของตัวเอง

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมคนร้ายได้แถวแสมดำ อาศัยอยู่ที่วัดในจังหวัดสมุทรสาครมา2ปี ภายหลังเจ้าหน้าที่สืบจากกล้องวงจรปิด รวมถึงนำสุนัขตำรวจ ตรวจสอบเส้นทางจนทราบว่าตัวคนร้ายและสามารถจับกุมได้ที่บริเวณแสมดำ ซึ่งจากการดูพฤติการณ์แล้ว เชื่อว่ามีการวางแผนก่อเหตุมาก่อน เนื่องจาก คนร้ายกำลังถูกเลิกจ้างงาน ทำให้ไม่มีเงิน โดยคนร้ายได้ยืมรถจักรยานยนต์คนอื่นขับมาทางถนนพระราม2 และได้ซ่อนรถจักรยานยนต์ไว้ห่างจากจุดเรียกแท็กซี่ประมาณ 200เมตร เพื่อล่อลวงรถแท็กซี่ที่นายสิทธิศักดิ์ขับ จากการตรวจสอบไม่พบประวัติการก่อเหตุอาชญากรรมมาก่อน อย่างไรก็ตาม หากปล่อยไปอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้ จึงต้องเร่งจับกุมตัวมาดำเนินคดี

ด้านเกรียงศักดิ์ ชิยางคะบุตร เพื่อนผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ได้เจอกับนายสิทธิศักดิ์ เมื่อตอนเย็นวันเกิดเหตุก่อนจะแยกย้ายกันไป มาทราบอีกทีภรรยาของผู้เสียชีวิตโทรศัพท์มาหาตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ว่า ไม่สามารถติดต่อนายสิทธิศักดิ์ได้ หลังจากรับส่งผู้โดยสารที่บางมด จนกระทั่งทราบว่าเสียชีวิตแล้ว ยืนยันว่านายสิทธิศักดิ์เป็นคนนิสัยดีไม่มีปัญหาทะเลาะกับใคร คาดว่า หลังจากที่นายสิทธิศักดิ์ ส่งผู้โดยสารที่บางมดแล้วอาจจะรับคนร้ายต่อเพราะเป็นผ่านทางกลับบ้านพัก บริเวณแถวตลาดลีลา ทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นมา สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นไปด้วยดีไม่มีเหตุความวุ่นวาย

ผู้สื่อข่าว: ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ