สรุปข่าว 19.35 น.
++++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า สื่อเป็นคนเขียนข่าวเอง จะมาถามตนได้อย่างไร ส่วนที่มองว่าตนเป็นเป้าถูกโจมตีและถ้าไม่อยู่ จะทำให้รัฐบาลอ่อนแอนั้น คิดว่าคงไม่ถึงขนาดนั้นว่าตนเก่ง แต่ตนทำงานมานานประมาน 50 ปี ตั้งแต่จบโรงเรียนนายร้อยฯ ตนทำงานมาทุกเรื่อง เจอคนมาทุกอย่าง ยืนยันว่าตนไม่ได้เครียดถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่าจะออกหรือไม่ออก เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับตน ถ้าแข็งแรงและไม่ป่วยก็จะทำงานต่อ แม้ว่าอายุจะ 72 ปีแล้วก็ยืนยันว่าจะทำงานต่อ หากยังอ่านหนังสือรู้เรื่องคิดว่ายังทำงานได้ ส่วนกระแสข่าวให้ลาออก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่น้อยใจ และตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะทราบดีว่าสื่ออยากขายข่าว และไม่มองว่าเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งคนที่เป็นเป้าถูกโจมตีไม่ใช่มีแค่ตน คนอื่นๆ ก็โดนเช่นกัน เพียงแต่ตนโดนหนักหน่อยเท่านั้น อาจจะมองว่าตนทำงานมาก หรือมีอำนาจมากไปหรือไม่ และยืนยันว่าตนยังไม่ใช้อำนาจอะไรเลย และรู้สึกชินกับข่าวในลักษณะนี้ แต่คนอื่นเขาไม่ชินด้วย โดยเฉพาะประชาชนตามต่างจังหวัด
+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.วิจารณ์ผู้ตรวจการเลือกตั้งในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ฉบับ กรธ.ว่า ใครท้วงติงอะไร กรธ.ก็จะนำกลับไปทบทวนทั้งนั้น สื่อถามตนก็ยังนำกลับไปทบทวน ที่ผ่านมา กกต.จังหวัดมีข้อครหาเยอะ กรธ.จึงคิดว่าองค์ประกอบต่างๆ ของผู้ตรวจการเลือกตั้งช่วยแก้ปัญหาได้ ส่วนเหตุที่กำหนดให้ กกต.ต้องขึ้นทะเบียนรายชื่อของคนที่จะเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ก็เพื่อไม่ต้องเลือกกันใหม่ทุกปี อีกทั้งในระยะเวลา 5 ปีก็สามารถสลับพื้นที่กันได้ ซึ่งแนวคิดนี้จะดีกว่าระบบเก่าหรือไม่นั้น คิดว่าอย่างน้อยที่สุดก็จะทำให้มือไม้ของ กกต.จะไม่ถูกกล่าวหาอย่างที่ผ่านมา ส่วนที่นายสมชัยระบุว่า หากแก้ทุจริตไม่ได้ก็ให้โทษคนคิดนั้น ก็คิดว่า ถ้าคนทำไม่ทำตามกติกา แล้วจะมาโทษคนคิดได้อย่างไร ส่วนเหตุใดถึงต้องใช้เวลาร่างกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว.มาก นายมีชัยกล่าวว่า เพราะเป็นกฎหมายว่าด้วยวิธีการในการเลือกตั้งที่เป็นเรื่องซับซ้อน จึงได้ใช้เวลานานกว่า อีกทั้ง กรธ.ยังทำเร็วไม่ได้ เพราะต้องรอดูกฎหมายลูก 2 ฉบับแรก เพื่อให้พรรคการเมืองและ กกต.มีความพร้อม มิ เมื่อกฎหมายพรรคการเมืองบังคับใช้ คสช.คงพิจารณาอนุโลมให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ซึ่งวันนี้ก็เริ่มทยอยๆ พิจารณาบ้างแล้ว แต่ยังทบทวนเต็มที่ไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าพอไปถึง สนช.แล้ว กฎหมายพรรคการเมือง กับกฎหมาย กกต.จะถูกแก้ไปอย่างไร
+++กรณี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) เป็นที่ปรึกษาบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด มหาชน และได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 50,000 บาท จะเข้าข่ายการทำผิดพ.ร.บ.การขัดผลประโยชน์หรือไม่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายดังกล่าว จึงต้องดูเรื่องวินัยของตำรวจ และกฎหมายของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ว่ามีความผิดหรือไม่ แต่ในส่วนข้าราชการพลเรือนไปเป็นกรรมการบริษัทจะไปเป็นกรรมการบริหารร่วมกับบริษัทใด ๆ ไม่ได้ ข้าราชการจะนั่งรับเงินเดือนสองที่ไม่ได้ เพราะจะต้องเอาเวลามานั่งทำงานให้กับราชการ ส่วนการนั่งตำแหน่งที่ปรึกษารับเงินเดือนได้หรือไม่ ให้สังคมเป็นผู้หาคำตอบเองส่วนการจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมกายที่ล่าสุดถูกแจ้งความดำเนินคดี 111 คดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีได้หรือไม่นั้น ว่า ตำรวจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจะพยายามเต็มที่ เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดดำเนินคดีให้ได้ โดยขอให้ไว้ใจเจ้าหน้าที่ด้วย
+++ นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) แถลงผลการประชุม ศตส. ว่า ที่ประชุมมีการประเมินการปฏิบัติเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกและดูแลประชาชน ซึ่งสถิติอยู่ที่ 45,000 -50,000 คน ซึ่งการบริหารจัดการเป็นไปได้ตามแผนหลักที่วางไว้ แต่ระยะเวลาการทำงานจะเพิ่มมากขึ้นทั้งเจ้าหน้าที่ ประชาชน ขณะเดียวกันได้มีการทบทวนสิ่งที่ทุกฝ่ายเป็นห่วงอยู่ คือเรื่องปัญหาสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ฉะนั้นเรื่องการดูแลสุขภาพประชาชนในช่วงสัปดาห์หน้า ก็จะเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ นอกจากนี้ยังมีการเตรียมการรองรับช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะท้องสนามหลวงอาจมีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เคานท์ดาวน์ รวมถึงการเดินทางมาถวายสักการะ ถวายพระพรชัย จึงจะมีกิจกรรมหลากหลายเกิดขึ้น จึงขอให้ทุกฝ่ายเตรียมแผนในการรองรับประชาชน ทั้งแผนอำนวยความสะดวก แผนจราจร การขนส่ง และการให้บริการทางการแพทย์ รวมถึงยังมีการหารือปัญหาปลีกย่อย เช่น การเริ่มก่อสร้างอาคารจัดงานนิทรรศการเย็นศิระ เพราะพระบริบาล ซึ่งได้เน้นย้ำเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย การดูแลความปลอดภัย รวมถึงการดูแลต้นมะขาม อย่างไรก็ตาม ในวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีการปิดการจราจรเช่นเดิม เพราะจะมีนักปั่นประมาณ 300 คน ปั่นจักรยานจากจังหวัดชลบุรีมาถึงตั้งแต่ในช่วงเช้ามืด เพื่อเข้าคิวสักการะพระบรมศพ อาจจะมีผลกระทบต่อการจราจร แต่เราได้มีการเตรียมแผนรับมือแล้ว
+++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ในวาระ 2 และ 3 ด้วยคะแนนเสียง 168 เสียง งดออกเสียง 5 จากนี้จะต้องรอประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
+++ศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้องคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล"และพวก 11 คน ไม่ผิดฐานหมิ่นประมาทนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีปฏิญญาฟินแลนด์ ตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ชี้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต และติชมด้วยความเป็นธรรม
+++ตำรวจ สน. ตลิ่งชัน คุมตัวนายเอกบุรุษ ฤทธิ์รักขพันธ์ อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ต้องหาคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวออสเตรเลีย ในซอยบรมราชชนนี 43 ไปขออำนาจศาลจังหวัดตลิ่งชันฝากขัง ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวได้พาหญิงสาวชาวออสเตรเลีย ผู้เสียหายมาที่ศาลด้วย ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้อง ฝ่ายผู้ต้องหาขอประนีประนอมยอมความกับผู้เสียหาย โดยเสนอขอชดใช้ค่าเสียหาย ฝ่ายผู้เสียหายขอเวลาพิจารณาโดยจะให้คำตอบในวันพรุ่งนี้(17ธ.ค.) ศาลจึงนัดคู่ความอีกครั้งเพื่อไกล่เกลี่ยพร้อมสั่งพิจารณาคดี ขณะที่ญาตินายเอกบุรุษได้ยื่นหลักทรัพย์ 200,000 บาท ขอประกันตัว ขณะที่การตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบเคยก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ หญิงสาวร่างกายไม่สมประกอบมาก่อนหน้า ประมาณ 3 เดือน แต่สามารถยอมความกันได้
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดที่ 1,522.51 จุด เพิ่มขึ้น 2.86 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,841.99 ล้านบาท เงินบาทอ่อนค่ายังคงกดดันตลาดหุ้นไทย เพราะมีแรงขายของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง และแม้ว่า บรรยากาศการลงทุนจะเป็นบวก แต่ยังขาดปัจจัยบวกที่แข็งแกร่งมาผลักดันการฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่การประชุม กนง. ในสัปดาห์หน้า คาดยังคงอัตรา ดอกเบี้ยอ้างอิงที่ระดับเดิม
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะเดียวกัน การอ่อนค่าของเงินเยนยังช่วยหนุนดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้นด้วยพุ่งขึ้น 127.36 จุด ที่ 19,401.15 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในปีนี้
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีความวิตกกังวลว่าจะเกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดในภูมิภาค ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 38.65 จุด ปิดวันนี้ที่ 22,020.75 จุด
++++หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีของทางการจีนรายงานอ้างนายหลิว บิงจิง หัวหน้าสำนักบริหารจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของจีนว่า รัฐบาลจีนได้แนะนำให้ 23 เมืองทางภาคเหนือของประเทศให้ออกประกาศเตือนภัยสีแดง ซึ่งเป็นการเตือนภัยมลพิษทางอากาศขั้นสูงสุดในช่วงเย็นวันนี้ หลังเกิดปัญหาหมอกควันรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยประสบมานับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปีก่อน ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนได้ออกประกาศเตือนภัยสีแดงเรื่องปัญหาหมอกควันในกรุงปักกิ่งเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน หลังใช้ระบบเตือนภัยจำแนกเป็นสีต่างๆตามระดับความรุนแรงเป็นเครื่องมือเตือนภัยมลพิษทางอากาศ เป็นผลพวงจากเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา สำหรับ 9 เมือง รวมถึงเมืองจี่หนาน เมืองเอกของมณฑลซานตง ได้รับการแนะนำให้ประกาศเตือนภัยสีส้ม ด้านนายไบ กุยหยง หัวหน้าศูนย์เฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมของจีนระบุว่าการที่เกิดปัญหาหมอกควันอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือของจีนในปีนี้เป็นผลจากการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงงานในท้องถิ่น สภาพอากาศแปรปรวนและมลพิษทางอากาศที่ลอยมาจากที่อื่น