ในการอนุรักษ์น้ำและป่า จากการระดมความคิด ตามรอยพ่อหลวง ระเบิดจากข้างในใจคนน่าน ภายใต้หัวข้อ ปลูกป่าอย่างไรให้ยั่งยืน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับปลัดจังหวัดน่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมระดมความเห็นเพื่อแก้ปัญหาป่าและน้ำในพื้นที่จังหวัดน่าน
นายพิภัช ประจันเขตต์ ปลัดอำเภอจังหวัดน่าน กล่าวว่า แหล่งน้ำในจังหวัดน่านนอกจากจะใช้บริโภคภายในจังหวัดแล้ว ยังเป็นแหล่งต้นน้ำที่ส่งไปยังแม่น้ำสายอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งการจะมีน้ำได้ต้องเริ่มจากการมีป่า ทั้งนี้พบว่า พื้นที่ป่าของจังหวัดน่าน หายไปประมาณ 1,100,000 ไร่ มีค่าเท่ากับน้ำที่หายไป 158,000,000 คิว จึงต้องมีการร่วมระดมความคิดและปฏิบัติเพื่อหาแนวทางการปลูกป่า พร้อมทั้งสร้างอาชีพเพิ่มให้กับเกษตรที่ทำการเพาะปลูกเพียงอย่างเดียว โดยเชื่อว่า ถ้าทุกคนมีความเข้าใจร่วมกัน มีจุดมุ่งหมาย ความตั้งใจเดียวกัน ความสำเร็จที่จะสร้างป่าคงไม่ไกลเกินที่จะทำได้
นางฤดีมาส ปางพุฒิพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตตระหนักถึงความสำคัญของผืนป่า โดยเฉพาะในจังหวัดน่านที่ได้ช่วยกันดูแลป่าอย่างดี แต่การดูแลป่านั้นคงต้องเป็นหน้าที่ของทุกๆคน ที่ผ่านมากว่า 20 ปี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ปลูกป่าไปแล้ว กว่า 100,000 ไรในพื้นที่จังหวัดน่านและจากการตรวจสอบภาพถ่ายจากดาวเทียมเมื่อไม่นานมานี้ พบว่า ผืนป่าที่ได้ปลูกไว้ยังคงอยู่ร้อยละ 90 ของพื้นที่ ชี้ให้เห็นว่าภูเขาหัวโลนในจังหวัดน่านนั้นเป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น และที่ป่ายังคงอยู่ได้เป็นจำนวนมาก ก็เป็นเพราะชาวจังหวัดน่านทุกคนที่ช่วยดูแล และอยากให้ทุกคนมาช่วยด้วยเช่นกัน
ส่วนการปลูกป่าอย่างยั่งยืน ต้องปลูก 3 ที่ ประกอบด้วย ปลูกที่ท้อง คือสร้างอาชีพให้ชาวบ้าน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้จ้างให้ชาวบ้านในท้องถิ่นปลูกป่า เพราะนอกจากจะสร้างรายได้แล้ว ก็เชื่อว่าผู้ที่ปลูกเองก็มีจิตสำนึกที่จะอนุรักษ์ด้วย นอกจากนี้ยังมีปลูกที่ใจ คือสร้างจิตสำนึกรักป่าให้เยาวชนรุ่นหลัง ได้สืบทอดและอนุรักษ์ต่อไป และสุดท้ายต้องปลูกที่ป่า คือเมื่อจ้างชาวบ้านปลูกป่าแล้ว การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ยังช่วยดูแลเป็นเวลา 3 ปี ก่อนส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลต่อไป
...
ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม