วันที่สองของการเดินทางมาที่จ.น่าน ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เพื่อมาเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวจ.น่าน ในเรื่องการปลูกพืชผลทางการเกษตร และการน้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมาปรับใช้ในการทำการเกษตร เมื่อช่วงเย็นนี้ ได้ไปดูเรื่องการส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเมือง ริมแม่น้ำน่าน โดยได้ไปเยี่ยมชมร้านม่วงชาต สู่ความพอเพียงและยั่งยืน ที่ตั้งอยู่บริเวณกาดแลง อำเภอเมือง ซึ่งเป็นร้านในโครงการส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาจัดตั้งขึ้น ว่าที่ร้อยตรี กิตติ ขันธมิตร กรมวังผู้ใหญ่ เปิดเผยว่า ร้านม่วงชาตแห่งนี้ แต่เดิมเป็นเพียงร้านกาแฟ ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552 หลังจากนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชประสงค์ ที่จะส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ของจังหวัดน่าน ที่ทำการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าต่างๆ จึงได้มีการปรับปรุงร้านใหม่ โดยเน้นที่สีม่วง ซึ่งเป็นสีวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และนำสินค้าของชาวบ้านในจังหวัดน่านที่ได้จากการประกอบอาชีพ รวมทั้งจากการแปรรูปมาจำหน่ายในร้าน ส่วนชื่อร้านม่วงชาต ก็เป็นชื่อที่ทรงพระราชทาน ซึ่งคำว่าม่วง มาจากสีวันพระราชสมภพ และคำว่าชาตมาจาก ชาตะ ที่แปลว่า เกิด
ปัจจุบันร้านม่วงชาต ไม่ได้จำหน่ายเพียงแค่กาแฟเท่านั้น แต่ยังมีการนำสินค้า เช่น เครื่องจักรสาน อาหารแปรรูป ผ้าไหม ผลิตภัณฑ์ OTOP ของชุมชนมาจำหน่าย สร้างรายได้ให้ชาวบ้านในท้องถิ่นได้เป็นอย่างมาก เพราะจะมีรายได้ที่ได้จากการขายสินค้าโดยตรง ทำให้มีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้ภายในร้าน ยังมีน้ำหอมพระราชทานที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปรุงกลิ่นด้วยพระองค์เองจำหน่ายด้วย
ว่าที่ร้อยตรีกิตติ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการเพิ่มส่วนแสดงนิทรรศการ เพื่อให้ประชาชนที่มาซื้อของภายในร้านได้ชมและศึกษา และทุกวันเสาร์จะมีการจัดฝึกอาชีพให้กับผู้ที่สนใจรวมทั้งประชาชนในพื้นที่ได้มาเรียนรู้ เพื่อนำไปพัฒนาประกอบอาชีพต่อ เช่น สอนการพิมพ์ลายผ้า การแปรรูปอาหาร และในช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.2560 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาเปิดอย่างเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม