ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างพระราชบัญญัติการยาสูบแห่งประเทศไทยนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ เพื่อยกระดับโรงงานยาสูบเป็นนิติบุคคล และเพื่อช่วยให้ การยาสูบแห่งประเทศไทยที่เป็นองค์กรจัดตั้งขึ้นใหม่สามารถ ดำเนินธุรกิจได้เต็มศักยภาพ และแข่งขันกับคู่ค้าต่างชาติที่มีขนาดใหญ่ได้ โดยพระราชบัญญัตินี้จะมีการจัดตั้ง การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ขึ้น มีคณะกรรมการและผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย รายได้ที่ได้จากการดำเนินการนำมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง และนำเข้ากับรัฐในส่วนที่เหลือ สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองยกเว้นในกรณีสำคัญ รวมทั้งจะมีการจัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ เพื่อให้กับลูกจ้างและครอบครัว
ส่วนการกำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรม 12 สาขาอาชีพ ประกอบด้วยสาขาจักรกลและโลหะการ สาขาเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และสาขาแม่พิมพ์ โดยมีหลักเกณฑ์ผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีผ่านการทดสอบและมีประสบการณ์จะได้รับค่าจ้าง 380 - 460 บาท หากมีประสบการณ์การทำงานไม่น้อยกว่า 2 ปี ในสาขาช่างอุตสาหกรรมจักรกล โลหะการจะได้ค่าจ้างวันละ 600 บาท เพื่อเป็นการให้ความสำคัญกับการพัฒนาฝีมือแรงงาน
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรี ยังได้รับรายงานความคืบหน้าแผนปฏิบัติการขนส่งระยะเร่งด่วนปี 2559 - 2560 โดยในปี 2559 ได้อนุมัติ 20 โครงการ มูลค่า 1,796,000 ล้านบาท ส่วนแผนในปี 2560 จะมีการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการขนส่งอีก มูลค่า 896,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศไทยและเพื่อให้ประชาชนมีการคมนาคมขนส่งที่สะดวกขึ้น