หลังการประชุมวางแผนจับกุมพระธัมมชโย เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์ วัดพระธรรมกาย พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ว่า ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปในการเข้าค้นวัดพระธรรมกาย เนื่องจากกำลังที่ใช้ประกอบยังไม่สอดคล้องกับกฎหมาย ป.วิอาญา รวมทั้งความพร้อมของฝ่าย นิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมด และฝ่ายเทคโนโลยี ซึ่งต้องรอว่า จะมีการเรียกระดมพลเมื่อใด แต่ก็พร้อมภายใน 24 ชั่วโมง การรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่พร้อมที่จะยื่นต่อศาล รวมถึงแผนปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างเตรียมการ ซึ่งหากเสร็จเมื่อใดก็สามารถนำประกอบในการดำเนินการขอหมายค้นได้ทันทีส่วนจะเข้าตรวจค้นภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ขอให้ขึ้นอยู่กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ในการที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมเอง แล้วให้ดีเอสไอเป็นผู้อายัดตัวพระธัมมชโยต่อนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า สามารถทำได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับคำสั่งของ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้สั่งให้ตำรวจดำเนินการตามความร้องขอของดีเอสไอ
ส่วนที่นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ แถลงข่าวเรื่องตำรวจจะนำกำลัง 3 พันคน เข้าไปปฏิบัติการ ขอยืนยันว่า ในส่วนของกฎหมายผู้มีอำนาจในการสั่งการมีเพียงตำรวจยศร้อยตรีประมาน10คน ส่วนที่เหลือเป็นเพียงหน่วยสนับสนุนและดูแลความเรียบร้อย ซึ่งการแถลงข้อมูลทางกฎหมายของนายองอาจผิด ดังนั้นจึงขอให้นายองอาจกลับไปศึกษาข้อกฎหมายก่อนแถลงข่าวในฐานะนักกฎหมาย ซึ่งหากคำพูดจองนายองอาจขัดกับกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินการได้
พลตำรวจเอกศรีวราห์ ยืนยัน ไม่มีการปิดกั้นมวลชนที่จะเข้าไปสวดมนต์ภายในวัด แต่หากขัดขวางการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ก็จะมีการดำเนินการทางกฎหมาย ส่วนการข่าวยังไม่พบความรุนแรงในการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือการสร้างสถานการณ์ของมือที่3 ยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ใช้อาวุธกับมวลชนที่ร่วมสวดมนต์ แต่หากเป็นโจรก็จำเป็นต้องใช้
ด้านพันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า การขอหมายค้น ต้องมีแผนที่ในการเข้าค้น รายละเอียดแผนยื่นให้ศาลพิจารณา ส่วนวันเวลาปฏิบัติการยังไม่ขอเปิดเผย รวมถึงต้องใช้เวลาติดต่อกันในการเข้าค้นหรือไม่อยู่ในแผนปฏิบัติการและไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด