กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอชี้แจงอีกครั้ง หลังนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ตั้งข้อสังเกตการทำงานของดีเอสไอ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยืนยันว่า ไม่เคยดำเนินความผิดฐานเรี่ยไรเงิน กับพระธัมมชโย แต่ดีเอสไอดำเนินการในฐานฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดอาญา และยอมความไม่ได้ จึงต้องให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ได้
ส่วนกรณีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส.ดำเนินคดีฐานบุกรุกป่า โดยได้รับความเห็นจากนาย วิฑูรย์ ชลายนนาวิน อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งถูกให้ออกจากราชการ ดีเอสไอมีข้อมูลว่า นายวิฑูรย์ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาลตามกฎหมาย ส่วนเรื่องถูกกล่าวหาจนต้องออกจากราชการเป็นจริง แต่ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ อยู่ระหว่างการอุทธรณ์
ส่วนระงับการออกอากาศ ช่อง DMC โฆษกDSI ยืนยัน ได้มีทำงานด้านการข่าวพบว่า การออกอากาศ มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ซึ่งะสามารถยื่นอุทรณ์ได้หากมองว่าไม่เป็นธรรม สำหรับข้อกล่าวหาว่า ใช้กำลังหลายฝ่าย เข้าบุกวัด ส่งผลต่อภาพลักษณ์ ยืนยันว่า กำลังส่วนใหญ่เป็นกำลังอำนวยความสะดวกประชาชนและป้องกันเหตุแทรกซ้อน แต่กำลังจับกุมไม่มาก โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ต้องการหลีกเลี่ยงความรุนแรง และเพื่อไม่ให้เกิดการรุนแรงและสิ้นเปลืองจึงขอให้พระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการ ส่วนที่มองว่าไม่ควรนำกำลังเข้าทำการขณะนี้ เพราะมีเหตุการณ์สำคัญอยู่ในช่วงละเอียดอ่อน เชื่อว่าทุกคนเป็นพสกนิกรชาวไทยเหมือนกัน ต้องเข้าใจกันดังนั้นควรให้พระธัมมชโย เข้าสู่กระบวนการเพื่อลดการใช้กำลังและสิ้นเปลืองงบประมาณ นอกจากนี้การที่มีองค์กรพุทธออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้วิธีการสันติวิธีในการดำเนินการกับพระธัมมชโย ดีเอสไอจึงขอ เชิญสื่อมาร่วมเป็นสักขีพยานในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการออกจดหมายต่างๆต้องไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศ
สำหรับการออกมาให้ข่าวของนายองอาจ จะเข้าข่ายมีความผิดยุยงปลุกปั่น หรือบิดเบือนข้อมูลหรือไม่นั้น ขอเรียนว่า ไม่ว่าใครก็ตาม ที่กระทำการปลุกปั่น ก็ผิดตาม ม.166 ซึ่งดีเอสไออยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล
มี รายงานข่าว เปิดเผยว่า ศาลได้อนุมัติหมายค้นวัดพระธรรมกายแล้วอย่างน้อย 4 หมาย ในวันที่13-16ธ.ค. โดยการประชุมวันนี้เป็นการหารือ เรื่องการพิจารณาใช้หมายค้นว่าสอดคล้องกับการนำไปใช้จริงหรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาว่าไม่สอดคล้องอาจนำไปขอศาลไต่สวนขอปรับแก้ไขห้วงเวลาก่อนนำไปใช้จริง ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด