นายกเป็นปธ.วันต่อต้านคอรับชั่นสากล/ปปช.เปิดกรุสมบัติ สนช. เจน นำชัยศิริ รวยสุด

09 ธันวาคม 2559, 07:06น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 



+++มีความเคลื่อนไหวที่ จ.กระบี่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนจัดสร้างตกแต่งพลับพลาพิธีที่ประทับ เพื่อรับเสด็จฯสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจในจ.กระบี่ และทรงเปิดอาคารศาลากลาง จ.กระบี่ (หลังใหม่) ในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม เวลาประมาณ 15.00 น. ถือเป็นจังหวัดแรกในรัชสมัย รัชกาลที่ 10 ที่ทรงเสด็จฯมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยทุกด้านอย่างเข้มงวด



+++รัฐบาลไทยโดยกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับ “รัฐบาลภูฏาน” จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติในหลวง “รัชกาลที่ 9” ระหว่างวันที่ 8-31 ธันวาคม ณ ราชอาณาจักรภูฏาน โดยวธ.กราบทูลเชิญสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เป็นองค์ประธานพิธีเปิดนิทรรศการครั้งนี้ด้วย สำหรับเนื้อหาในนิทรรศการครั้งนี้ แบ่งเป็น 5 ส่วนคือ 1.ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ไทยกับราชวงศ์ภูฏาน 2.พระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่พระราชสมภพ การขึ้นครองราชย์ พิธีบรมราชาภิเษก ราชาภิเษกและพระปรีชาพระอัจฉริยะภาพทั้งดนตรี ศิลปะ กีฬา 3.พระราชกรณียกิจ ที่ทรงงานหนักตลอด 70 ปีของการครองราชย์ 4.การแสดงความอาลัย ภาพเรื่องราวทั้งชาวไทยและชาวภูฏานที่ร่วมถวายความอาลัยในหลวง รัชกาลที่ 9 และการเสด็จมาร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลที่ประเทศไทยของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี นัมเกล วังชุก และ 5.การฉายวิดีทัศน์ เรื่อง ธ สถิตย์ไว้ในดวงใจไทยนิรันดร์



+++วันนี้ เวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดงานเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ณ หอประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม (การแต่งกายช่างภาพสวมเสื้อแจคเก็ต / ถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีโทรทัศน์ Thai PBS ระหว่างเวลา 09.15 – จนเสร็จสิ้นพิธีการ) -ก่อนเริ่มพิธีเปิดงานฯ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการ ณ บริเวณด้านหน้าหอประชุมฯ (อนุญาตเฉพาะช่างภาพช่อง 5 ,ช่อง 11 และช่างภาพทางการ)



+++-หลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กล่าวบรรยายพิเศษเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หัวข้อ “เรื่องเล่าของพ่อ ขอทำดีเพื่อแผ่นดิน” +++นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และกรรมการเอสซีจี เปิดเผยภายในงานเสวนาพิเศษเพื่อสืบสานพระราชปณิธานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง "เอสซีจี ธุรกิจพอเพียง" ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน คือ "อย่าโกง" ต้องดำเนินการทุกอย่างให้สุจริต มีหลักธรรมาภิบาล ซึ่งประเด็นนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่านยังทนไม่ไหว พระองค์ท่านเน้นให้ดำเนินทุกอย่างด้วยความสุจริต ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลดำเนินนโยบายปราบการทุจริตในขณะนี้ ก็อยากให้ตั้งใจดำเนินการต่อไป ขอให้ใจแข็ง ใช้ความอดทนให้สำเร็จลุล่วง เพราะเรื่องนี้เป็นโรคร้ายที่อยู่ในสังคมไทยมานาน บางครั้งเราก็ให้อาหารหล่อเลี้ยงโดย ไม่รู้ตัว



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังปฎิเสธที่จะกล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าจะเป็นการปรับใหญ่หรือปรับเล็ก โดยย้อนถามสื่อกลับว่า "อยากเป็นหรือเปล่า" ก่อนที่จะเดินขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อทำงานตามปกติ



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยอมรับว่าในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นายกรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ถ้ารัฐมนตรีคนใดต้องการจะพักผ่อน ก็สามารถแจ้งไปที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ แต่ทั้งหมดนายกรัฐมนตรีก็ต้องมาพิจารณาอีกครั้ง ไม่ใช่ใครแสดงเจตจำนงเข้ามาแล้วจะให้ออกไปได้ทั้งหมด



++++ส่วนการดำเนินการกับสำนักข่าวบีบีซีประจำประเทศไทย พลเอกประวิตรกล่าวว่า ยังไม่ได้สั่งปิดสำนักข่าวดังกล่าว แต่ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ ดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อถามว่ามีการเผยแพร่ภาพหน้าสำนักงานของสำนักข่าวดังกล่าวที่มีการปลดป้ายชื่อสำนักข่าว และติดฟิล์มทึบบนกระจกของสำนักงานนี้แล้ว พล.อ. ประวิตร กล่าวว่ายังไม่เห็นภาพดังกล่าวยืนยันว่าอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการไปตามหน้าที่ ไม่สามารถละเว้นได้ อะไรที่เป็นการสร้างความขัดแย้ง และเป็นการกระทำความผิด จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกเรื่อง ไม่มีละเว้น



+++ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า รัฐบาลไทยได้ส่งคำร้องไปยังผู้ให้บริการสื่อโซเชียลด้วยเช่นกัน เมื่อพบการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามกลุ่มคนที่พยายามเคลื่อนไหว หรือกระทำผิดกฎหมาย เมื่อเขาถูกปิดกั้นก็จะย้ายไปใช้สื่อช่องทางอื่นและเปลี่ยนชื่อไป เรื่อย ๆ แต่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงดีอี คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตำรวจสากล และอัยการสูงสุด ยังร่วมมือกันเพื่อจัดการเรื่องนี้ ทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวแล้ว ที่จริงการทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนต่างประเทศ เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและกรมประชา สัมพันธ์ อย่างไรก็ตามถ้าพบว่ามีเรื่องของมือ ที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เราก็ต้องแยกส่วนนั้นออกมา



+++นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองในเรื่องทุนประเดิมจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองจากผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองแต่ละพรรค รายละ 2,000 บาท ที่มีเสียงท้วงติงว่าพรรคเล็กอาจจะอยู่ไม่ได้ ว่า ทุกวันนี้พรรคที่มีสมาชิกไม่ถึง 5,000 คน ก็ต้องถูกยุบตามกฎหมายเก่า  แต่คราวนี้เราทำให้ง่ายขึ้นคือใครมีสมาชิกเริ่มต้นที่ 500 คน ก็สามารถมาจดตั้งพรรคการเมือง ยืนยันได้เลยว่า ไม่ได้เป็นการทำลายพรรคการเมืองขนาดเล็ก เพราะพรรคเล็กเองก็ต้องมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ถ้ามีต่ำกว่า 5,000 คน ใน 1 ปี คุณก็ต้องไป  ส่วนองค์กรอิสระเคลื่อนไหว เริ่มไม่พอใจ นายมีชัย กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปกังวล ร่างที่ กรธ.ทำขึ้นมาเป็นเพียงตัวร่างเท่านั้น ส่วน สนช.จะแก้ไขอย่างไรก็ยังไม่ทราบเลย  สิ่งที่ กรธ.ทำนั้นก็ทำตามรัฐธรรมนูญ หาก กรธ.ไม่ทำก็อาจจะถูกตำหนิได้ และหากไม่มีทางเลี่ยงก็แปลว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่มีทางเลี่ยง แต่ถ้ามีทางเลี่ยงได้ สนช.เขาอาจจะเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไปไม่มีใครว่าอะไร



+++นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง ให้สัมภาษณ์ถึงร่าง พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองของ กรธ. ว่า  สอดคล้องกับข้อเสนอของ กกต.ที่จะให้พรรคการเมืองตั้งยาก อยู่ยาก ยุบยาก แต่มีจุดหนึ่งที่อยากให้ช่วยกันดูให้ดี คือความเท่าเทียมกันระหว่างพรรค การเมืองใหม่กับพรรคเก่าว่ามีกฎกติกาเอื้อประโยชน์พรรคเก่าหรือไม่ เช่น การเก็บเงินจากสมาชิกพรรค แต่พรรคเก่ามีครบแล้ว สามารถแปลงสินทรัพย์ก่อตั้งพรรคได้ ไม่ต้องเก็บเพิ่ม ทำให้ไม่เกิดการมีส่วนร่วม เพราะมีเงินจากนายทุนเดิม ซึ่งได้แนะนำเจ้าหน้าที่ กกต.ให้นำตัวกฎหมายมาอ่าน ทำเป็นข้อกำหนดว่าพรรคเก่า พรรคใหม่ต้องทำอะไรบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่ ก็อาจจะทำข้อเสนอไป



++++สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ประกอบด้วยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 59 จำนวน 31 ราย กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 27 ต.ค.59 จำนวน 2 ราย และกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 59 จำนวน 1 ราย โดยในส่วนของ สนช.ที่เข้ารับตำแหน่งใหม่นั้นพบว่า นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินมากที่สุด 339,115,360 บาท



+++สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้โฟกัสการบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) มีทรัพย์สิน 37,849,363 บาท ไม่มีหนี้สิน ส่วนนางฉวีวรรณ มหถาวร คู่สมรส มีทรัพย์สิน 55,382,001 บาท มีหนี้สิน 11 บาท รวมทั้งสิ้น 93,231,365 บาท มีหนี้สิน 11 บาท ซึ่งมีรายงานว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต พล.ต.ท.ศานิตย์ ชี้แจงรายละเอียดทรัพย์สินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินสด มูลค่า 3.2 ล้านบาท ที่เก็บไว้เนื่องจากเพื่อความคล่องตัวในการดูแลผู้ใหญ่ที่เคารพในโอกาสต่าง ๆ และดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาที่ต้องทำงานทั้งด้านเปิดเผยและไม่เปิดเผย รวมทั้งจะใช้จ่ายบางอย่างก็จะสะดวกและคล่องตัว ทั้งนี้ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มาจากมรดก รายได้หลักของ พล.ต.ท.ศานิตย์ ชี้แจงว่า ตั้งแต่ปี 2524 นอกเหนือจากรายได้ข้าราชการตำรวจแล้ว มีรายได้อื่นเป็นดอกเบี้ยจากการให้เพื่อนและญาติกู้ยืม รวมประมาณ 3 ล้านบาท เป็นที่ปรึกษา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ ตั้งแต่ปี 2558 มีรายได้ต่อเดือนประมาณ 5 หมื่นบาท รวมถึงการให้เช่าพระเครื่องซื้อมาขายไป รวมประมาณ 2 ล้านบาท รวมแล้วมีรายได้รวมประมาณ 42 ล้านบาท

ข่าวทั้งหมด

X