ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พันเอกหญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลังพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ให้เป็นองคมนตรี โดยในที่ประชุมครม.มีมติมอบหมายให้ ผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลำดับที่ 1 คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฏหมาย และลำดับที่ 2 นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่วนผู้รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลำดับที่ 1 คือ นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และลำดับที่ 2 พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถือเป็นการยกเลิกมติครม.เดิมที่มีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 และมติครม.วันที่ 8 กันยายน 2558
ในที่ประชุมครม.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้สร้างการรับรู้ให้ประชาชนรับทราบ เกี่ยวกับการขับเคลื่อนการทำงานในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะด้านแรงงาน ที่ขณะนี้ประเทศไทยและต่างประเทศต้องการแรงงานด้านใดบ้างและจำนวนเท่าใด ซึ่งข้อมูลต้องสอดคล้องกับการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจและการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจสำนักงานคณะ กรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และต้องเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มเศรษฐกิจภาคตะวันออกด้วย เพื่อเป็นการรองรับการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษในอนาคต โดยนายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้กระทรวงแรงงานสร้างแรงงานแบบครบวงจร เช่น ด้านการศึกษา ด้านกฎหมาย และจัดทำเป็นแผนแม่บทไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศในยุคไทยแลนด์4.0
และขณะนี้อยู่ในช่วงเตรียมการส่งต่อแผนการทำงานตาม โรดแมปในปีที่2 นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำงานของหน่วยงานราชการต่างๆ โดยให้พัฒนาศักยภาพขององค์กร และดำเนินการได้ด้วยตัวเอง ส่วนงานใดที่ไม่สามารถดำเนินการได้นายกรัฐมนตรีก็จะพิจารณาและอาจจะมีบทลงโทษด้วย สำหรับหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอยู่ ก็จะเน้นให้ข้าราชการพลเรือนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น