การแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย พลตรีคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนได้หารือกรรมาธิการด้านการประมงยุโรป ซึ่งพอใจการดำเนินการของไทย ที่เป็นรูปธรรมและดีขึ้นตามลำดับ พร้อมชื่นชมที่ 1 ปีของการทำงานของศูนย์ติดตามและท่าเรือมีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ขณะเดียวกันกรรมาธิการต้องการให้ไทยให้ความสำคัญกับการทำประมงขนาดเล็ก เนื่องจากมีผลกระทบต่อประชาชน และขอไม่ให้ทำลายสภาพแวดล้อม รวมถึงให้ดูแลแรงงานเด็ก ซึ่งถือว่าเป็นผู้เสียหายโดย รัฐบาลได้ ติดตามการขับเคลื่อนเรื่องต่างๆเช่นกองเรือน่านน้ำ จับ ยึด เรือผิดกฎหมาย พร้อมจัดทำรายงานส่งสหภาพยุโรปในรอบ 6 เดือน คาดว่าจะสามารถส่งรายงานได้ภายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ รวมทั้งให้คำแนะนำการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าแรงงานที่ต้องนำเด็กเข้ามาในที่ทำงาน ในฐานะผู้ติดตามนั้น อาจถูกเพ่งเล็งว่าเป็นการใช้แรงงานเด็ก จึงมีแผนถอดสินค้า คือ อ้อย กุ้ง เครื่องนุ่งห่ม และสื่อลามก ออกจากบัญชีรายชื่อในกระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้ หน่วยงานดังกล่าวอยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูล
นอกจากนี้พลเอกประวิตร ยังได้เตรียมออกฎหมายเกี่ยวกับกับแรงงานและเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานที่อาจจะต้องนำกฎหมายเข้ามาดำเนินการ โดยกำหนดให้เสนอก่อน เดือน พฤษภาคม 2560 โดยจะเน้นการคุ้มครองความปลอดภัย และบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น หากกระทำความผิด ซึ่งจะทำให้มีผลบังคับใช้ในรัฐบาลนี้
ส่วนการแก้ปัญหาการบินพลเรือนนั้น สำนักงานบริหารองค์กรการบินแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ เอฟเอเอ ระบุว่า ต้องมีการปรับมาตรฐานการบินที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยให้ได้ และไทยต้องออกใบรับรองให้ผู้เดินอากาศใหม่ จากนั้นต้องขอให้ เอฟเอเอ เข้ามาตรวจสอบภายใน 90 วัน และจะต้องปรับปรุงให้ได้หลังจากตรวจสอบไปแล้วภายใน 65 วัน
โดยไทยตั้งเป้าว่า จะทำให้การบินไทยสามารถบินในเส้นทางสหรัฐอเมริกา ได้ภายในปี 2560 และจะต้องมีใบอนุญาตเดินอากาศ ซึ่งจะต้องขอจากกระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกา และจะต้องผ่านการตรวจสอบจากเอฟไอเอและได้การรับรองมาตรฐานระดับที่ 1 เท่านั้นจึงจะสามารถบินเข้าสหรัฐฯ ได้