มาตรการดูแลราคาข้าวเปลือกปี 57/58 นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายในเปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมฯได้จัดทำโครงการชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกเพิ่มขึ้น ถือเป็นมาตรการสนับสนุนในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือกนาปีปี 57/58 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้โรงสี และผู้ประกอบการค้าข้าว ให้สามารถรับซื้อข้าวเปลือกในช่วงต้นฤดู เป็นการดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด และเกิดการแข่งขันกันรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศขยับสูงขึ้นได้
สำหรับวิธีการดังกล่าว รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับโรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ผู้ประกอบการค้าข้าวเป็นลูกค้าอยู่ หรือธนาคารอื่น ตามมูลค่าข้าวเปลือกที่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในอัตรา ร้อยละ3 ต่อปี ตามระยะเวลาที่เก็บรักษาสต๊อกไว้ 3 - 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่กู้ เพื่อให้นำเงินกู้มารับซื้อข้าวเปลือกปี 57/58 จากเกษตรกรในราคานำตลาด ตันละ 100 - 200 บาท โดยกำหนดให้ซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรเดือนพ.ย.57-ม.ค.58 มีระยะเวลาการเก็บสต๊อกข้าวเดือนพ.ย.57-ก.ค.58 และโครงการนี้มีระยะเวลาดำเนินการเดือน พ.ย.57-ก.ย.58
โครงการนี้ จะทำให้โรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าวมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร โดยไม่เร่งระบายผลผลิตออกสู่ตลาด ทำให้สามารถดึงปริมาณข้าวเปลือกส่วนเกินออกจากระบบตลาดได้จำนวนหนึ่ง มาตรการนี้ เป็นหนึ่งในหลายๆ มาตรการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือชาวนา นอกเหนือจากการลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนา คาดว่าจะทำให้ราคาข้าวเปลือกอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม มีเสถียรภาพ ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำได้