ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกโอเปก บรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี โดยกลุ่มจะปรับลดกำลังผลิตรายเดือนลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เหลือ 32.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมเป็นต้นไป เป็นเวลา 6 เดือน โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายลดภาวะการผลิตล้นตลาด ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันตกต่ำ
+++มติของโอเปก ทำให้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นกว่า 4 ดอลลาร์ในวันพุธ(30พ.ย.) สูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังโอเปกบรรลุข้อตกลงลดกำลังผลิตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 4.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 4.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ความเคลื่อนไหวในแดนบวกของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน และกลุ่มธนาคาร เป็นปัจจัยดันดาวโจนส์ขยับขึ้นในวันพุธ(30พ.ย.) อย่างไรก็ตามแนสแดค ถูกฉุดจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1.98 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,123.58 จุด
+++ด้านราคาทองคำในวันพุธ(30พ.ย.) ขยับลงหนักเกือบ 17 ดอลลาร์ ปิดเดือนพฤศจิกายน ด้วยการทำสถิติเป็นเดือนที่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี หลังราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 16.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,173.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++นายฌอง-มาร์ค เอย์โรลท์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(ยูเอ็นเอสซี)จะเรียกประชุมด่วนในวันนี้ เพื่อหารือสถานการณ์วิกฤติด้านมนุษยธรรมในจังหวัดอเล็ปโป ซีเรีย ซึ่งนายสตีเฟน โอไบรอัน หัวหน้าสำนักงานบรรเทาทุกข์สหประชาชาติ(ยูเอ็น)ระบุว่าวิกฤติด้านมนุษยธรรมของซีเรียแย่ลงโดยต่อเนื่อง ขาดแคลนทั้งอาหาร,น้ำดื่ม,เชื้อเพลิงและเวชภัณฑ์ นายเอย์โรลท์เพิ่มเติมว่าที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงจะหารือถึงแนวทางวิธีการจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้แก่บรรดาผู้ประสบภัยในเมืองนั้น
+++นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวว่าเขาจะวางมือการทำธุรกิจทั้งหมดเพื่อมุ่งให้มีเวลาทำหน้าที่บริหารประเทศได้อย่างเต็มที่และป้องกันไม่ให้เกิดข้อครหาเรื่องการขัดกันแห่งประโยชน์ระหว่างธุรกิจส่วนตัวกับการทำหน้าที่ผู้นำประเทศ นายทรัมป์ทวิตข้อความว่า เขาจะชี้แจงเรื่องนี้โดยละเอียดอีกครั้งในการแถลงข่าวในนครนิวยอร์ก พร้อมกับลูกๆของเขาในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ก่อนหน้านี้นายทรัมป์ปฏิเสธว่าไม่หนักใจกรณีมีผู้วิจารณ์ว่าอาจจะเป็นปัญหาขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ทางธุรกิจของเขากับการทำหน้าที่ผู้นำประเทศ สำหรับสหรัฐฯไม่มีบทบัญญัติทางกฏหมายให้ผู้นำประเทศต้องขายทิ้งกิจการแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯตั้งแต่ครั้งอดีตจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำข้อตกลงทางธุรกิจเพื่อประโยชน์ส่วนตัว นายทรัมป์กล่าวว่าแม้ว่ากฎหมายสหรัฐฯจะไม่ห้ามผู้นำประเทศไม่ให้บริหารธุรกิจส่วนตัวควบคู่ไปด้วย แต่เขามองเรื่องนี้ว่า มีความสำคัญมาก เขาอยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารทางกฏหมาย ซึ่งจะกำหนดรายละเอียดต่างๆเพื่อให้สามารถวางมือจากธุรกิจ ระบุว่าการทำหน้าที่ประธานาธิบดีเป็นภารกิจที่สำคัญกว่า ก่อนหน้านี้นายทรัมป์ซึ่งเตรียมจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่าเขาอยู่ระหว่างการแบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบของภารกิจ 2 เรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจน แต่เขามั่นใจว่าเขาจะทำหน้าที่บริหารได้อย่างดีเยี่ยมทั้่งสองอย่าง
+++ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำหนดมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือในวันพุธ(30พ.ย.) โดยมีเป้าหมายตัดรายได้จากการส่งออกรายปีลง 1 ใน 4 เพื่อตอบโต้การทดสอบนิวเคลียร์รอบ 5 ครั้งใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือ ในเดือนกันยายน สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ 15 ชาติ ยกมือเป็นเอกฉันท์เห็นชอบมติตัดลดการส่งออกใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือ นั่นคือถ่านหิน ลงราวๆ 60 เปอร์เซ็นต์ โดยจะถูกจำกัดเพดานที่ 400.9 ล้านดอลลาร์หรือ 7.5 ล้านเมตริกตันต่อปีหรือต่ำกว่านั้นมติที่ร่างโดยสหรัฐฯนี้ยังห้ามส่งออกทองแดง นิกเกิล และสังกะสี รวมถึงรูปปั้น ซาแมนธา พาวเวอร์ ทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติบอกกับที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯหลังเสร็จสิ้นการโหวต ว่าอเมริกาหวังว่ามาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือจะประสบความสำเร็จ
+++ผู้ประท้วง 6 คนจากทั้งหมด 30 คนจากองค์กรนักเคลื่อนไหวชื่อวิสเซิล บโลเออร์(Whistleblowers Activists)และกลุ่มซิติเซนอะไลเอินซ์(Citizens Alliance)ที่คัดค้านกรณีรัฐบาลออสเตรเลียปฏิบัติต่อกลุ่มผู้อพยพอย่างไม่เหมาะสม บุกเข้าขัดจังหวะการประชุมของสมาชิกรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์รา ทำให้การประชุมของสภาสะดุดลง 40 นาทีในวันนี้ ผู้ประท้วงตะโกนว่า นโยบายกักขังผู้อพยพไว้บนเกาะหลายแห่งนอกชายฝั่งของออสเตรเลียถือเป็นการพรากลูกพรากเมียของผู้อพยพออกจากกันและมีผู้อพยพเสียชีวิตแล้วหลายศพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอาคารรัฐสภาได้ควบคุมตัวผู้ประท้วง 6 รายออกจากอาคารรัฐสภาโดยไม่เกิดเหตุวุ่นวายมากกว่านั้น ที่ผ่านมารัฐบาลออสเตรเลียเชื่อว่านโยบายแก้ปัญหาที่เข้มงวดคือการกักขังผู้ลักลอบเข้าเมืองไว้ในศูนย์กักกันนอกชายฝั่งของออสเตรเลียช่วยป้องกันไม่ให้ผู้อพยพเสียชีวิตอยู่กลางทะเล การประท้วงครั้งนี้มีขึ้น 2 สัปดาห์หลังรัฐบาลออสเตรเลียและสหรัฐฯบรรลุข้อตกลงเรื่องการจัดหาที่พักแห่งใหม่ให้กับกลุ่มผู้อพยพที่ถูกออสเตรเลียส่งไปอยู่ในศูนย์กักขังผู้อพยพในประเทศปาปัวนิวกินีและประเทศนาอูรู ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก
+++ตำรวจนิวยอร์กเผยแพร่คลิปเตือนเหล่าผู้ขับขี่ว่าไม่ควรทิ้งยานพาหนะไว้กลางนิวยอร์กโดยไม่มีคนเฝ้า ไม่เว้นแม้แต่ยานยนต์หุ้มเกราะ เป็นเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งเดินอาดๆเข้าไปยกถังบรรลุแผ่นทองคำบริสุทธิ์หน้าตาเฉย ก่อนหลบหนีลอยนวล ในวิดีโอพบเห็นชายคนหนึ่งเดินเข้าไปยกถังอะลูมิเนียมบรรจุแผ่นทองคำบริสุทธิ์น้ำหนักราวๆ 86 ปอนด์(ราว39 กิโลกรัม) มูลค่า 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(ราว 57 ล้านบาท) ไปจากรถบรรทุกคันหนึ่งที่ไม่มีคนเฝ้า ในย่านในกลางแมนฮัตตัน เมื่อวันที่ 29 กันยายน เจ้าหน้าที่ของบริษัทรถบรรทุกหุ้มเกราะกำลังดำเนินการขนสินค้า และเปิดท้ายรถทิ้งไว้โดยไม่มีคนดู ทำให้ชายคนหนึ่งสามารถเดินเข้าถึงรถได้อย่างง่ายดายและยกสินค้าที่มีค่าบางอย่างออกมา ก่อนต่อมาจะทราบว่ามันคือถังบรรจุแผ่นทองคำบริสุทธิ์ ตำรวจนิวยอร์กกำลังไล่ล่าหัวขโมยดังกล่าว โดยระบุว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายอเมริกันเชื้อสายสเปน สูงราว 5 ฟุต 6 นิ้ว หนัก 150 ปอนด์(ราว 68 กิโลกรัม) อายุระหว่าง 50 ถึง 60 ปี