อัยการ เผยดีเอสไอ ต้องติดตามจับพระธัมมชโยดำเนินคดีร่วมกันฟอกเงิน รับของโจรจากสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น

30 พฤศจิกายน 2559, 14:34น.


การดำเนินคดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น น.ส.ศรันยา หมานหมัด และนางทองพิน กันล้อม ผู้ต้องหาคดีร่วมกันสมคบกันฟอกเงินร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายชาติพงษ์ จิระพันธุ์ รองอธิบดีอัยการสูงสุด แถลงยื่นฟ้อง นายศุภชัย ผู้ต้องหาที่ 1 นางสาวศรัณยา ผู้ต้องหาที่ 3 และนางทองพิณ ผู้ต้องหาที่ 4 กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน  ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5,9,60 และประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 83,91 ต่อศาลอาญา โดยนายศุภชัย ถูกจำคุกอยู่ในคดีอื่น ซึ่งพนักงานจะขอให้ศาลเบิกตัวมาพิจารณาคดีต่อไป ส่วนนางศรัณยา และนางทองพิณ  มาตามที่นัดไว้ พนักงานอัยการจึงได้นำตัวส่งศาลเพื่อเตรียมฟ้อง



สำหรับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย ผู้ต้องหาที่ 2 และนางศศิธร โชคประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 5 กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจรตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5,9,60 ประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 357,83 ซึ่งพนักงานสอบสวนขอให้ศาลออกหมายจับไว้ แต่ยังจับกุมตัวไม่ได้ และยังไม่ได้นำตัวมาส่งให้พนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานอัยการมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง และได้แจ้งให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ จัดการติดตามผู้ต้องหาคือพระธัมมชโยและนางสาวศศิธร มาส่งให้พนักงานอัยการภายในอายุความ 15 ปี นับตั้งแต่วันที่กระทำผิด



นายประยุทธ กล่าวว่า หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของดีเอสไอที่ต้องติดตามตัวผู้ต้องหา ตามกระบวนการทางกฎหมาย ส่วนที่มีความกังวลว่าหากยังไม่สามารถติดตามตัว พระธัมมชโยมาดำเนินคดีเป็นเวลายาวนานจนถึงวันที่คดีหมดอายุความ จะทำให้ผู้ต้องหาพ้นความผิดหรือไม่ เรื่องดังกล่าวเป็นกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งพนักงานต้องติดตามตัวพระธัมมไชโยมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายให้ได้ ส่วนที่ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย อ้างว่าอัยการไม่ได้สั่งฟ้องแต่ระบุว่าเหตุสมควรสั่งฟ้องนั้นก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะหาคำพูดมาแก้ต่าง 



ผู้สื่อข่าว: พนิตา สืบสมุทร

ข่าวทั้งหมด

X