นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. กล่าวถึงขั้นตอนหลังจากที่ประชุมสนช.รับทราบการแจ้งมติครม.อัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ว่า จะเป็นไปตามขั้นตอนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด คือ หลังจากนี้จะนำความกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์ ขณะนี้สำนักพระราชวังยังไม่ประสานมาว่า จะให้นำความกราบบังคมทูลอัญเชิญในวันใด ส่วนขั้นตอนหลังจากทูลอัญเชิญแล้ว จะมีการประกาศแจ้งให้ประชาชนทราบอย่างไรค่อยมาว่าในรายละเอียดกันอีกครั้ง
ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิปสนช. กล่าวว่า หลังจากนี้ ประธานรัฐสภาต้องอัญเชิญพระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ต่อไป และประธานรัฐสภาจะประกาศให้ประชาชนทราบโดยทั่วกันผ่านทางการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาว่า ประธานรัฐสภาจะกราบอัญเชิญเมื่อใด
ส่วนการประชุมสนช.วันที่ 1ธ.ค.นี้ จะมีวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.สถาบันภูมิราชธรรม เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชย์ครบ 70 ปี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2559 โดยสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งสถาบันวิชาการ เพื่อนำพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพของพระองค์ที่ทำให้เกิดประโยชน์แก่พสกนิกร โดยสถานบันดังกล่าวมีฐานะเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เป็นนิติบุคคล อยู่ภายในกำกับของรัฐ แต่ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เพื่อผลิตนักวิชาการ นักวิชาชีพชั้นสูง โดยรายได้ของสถาบันมาจากเงินอุดหนุนของรัฐบาล และทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
แฟ้มภาพ