นายกรัฐมนตรีนาจิ๊บ ราซัคแห่งมาเลเซียยืนยันว่าจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดการเลือกตั้งในปีหน้าตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เนื่องจากพรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งบุคคลสำคัญทางการเมืองของมาเลเซีย นำโดยอดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ มูฮัมหมัด กำลังพยายามโจมตีรัฐบาลของนายนาจิ๊บ ซึ่งพัวพันกับคดีอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตในโครงการกองทุนเพื่อการพัฒนามาเลเซีย หรือ 1MDB
เดิมมาเลเซียจะมีกำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนสิงหาคม 2561 แต่จากเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นทำให้มีความเป็นไปได้ว่าการเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นในหลายปีหน้า แต่นอกจากนายกรัฐมนตรีจะยืนยันว่าจะไม่มีการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดแล้ว ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ เดลี่ในวันนี้ นายกรัฐมนตรียังระบุด้วยว่า เขารู้สึกถึงการขาดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเลือกตั้ง เพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความท้าทายในปัจจุบัน โดยประกาศว่าจะฟื้นฟูผลกำไรจากกิจการด้านน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของมาเลเซีย และเชื่อว่าเมื่อราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 60-70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือราว 2,100 – 2,450 บาทต่อบาร์เรล เศรษฐกิจของมาเลเซียก็จะดีขึ้น นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังกล่าวถึงการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือทีพีพีว่าเป็นสิ่งสำคัญในการนำไปสู่การจ้างงาน การลงทุน และความมั่งคั่งด้วย แม้ว่าก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเคยประกาศไว้ในการหาเสียงเลือกตั้งว่าจะถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเห็นว่าหากว่าข้อตกลงทีพีพีต้องล้มเหลวลง เขาก็หวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค หรืออาร์ซีอีพี ซึ่งจีนเป็นผู้ผลักดันได้แทน
.............
**13.46F174**