ผู้เชี่ยวชาญเสนอใช้แบริเออร์ที่มีมาตรฐานสูงถนนที่มีจุดเสี่ยง-คาดเข็มขัดนิรภัย เรียนรู้จากอุบัติเหตุรถตกเขาพลึง

26 พฤศจิกายน 2559, 15:51น.


การลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดอุบัติเหตุรุนแรงรถทัวร์บริษัทขนส่ง จำกัด หมายเลขทะเบียน 32-1488 กทม. ตกเขาพลึง ลึกกว่า 100 เมตร ถนนทางหลวงหมายเลข 11 หลัก กม.350 บริเวณหมู่ 7 ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก รศ.ดร. กัณวีร์ กนิษฐ์พงศ์ ผู้จัดการศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลกับจส.100 ว่า หลังจากทีมงานลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุและตรวจสอบสภาพรถคันที่เกิดเหตุ พบว่า รถบัสวิ่งลงเขามา จุดที่เกิดเหตุเป็นทางลาดลงเขา ประกอบกับเป็นทางโค้ง คิดว่าคนขับไม่สามารถควบคุมรถได้ และวิ่งมาทางเลนขวา ทำให้รถเสียหลักไปทางขวาและเบี่ยงไปชนแบริเออร์ด้านซ้าย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับปลายของแบริเออร์ที่มีความสูงไม่มาก จึงเลยตกเขาไป ส่วนการตรวจสอบสภาพรถ พบว่า สภาพรถใหม่ ยาง ระบบเบรก ไม่มีปัญหา คนขับสองคนผลัดเปลี่ยนกัน ไม่มีประวัติเสียหาย คิดว่ากรณีนี้สิ่งสำคัญคือระบบการป้องกันให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด ทั้งเรื่องศักยภาพของตัวถนน แท่งแบริเออร์ และการคาดเข็มขัดนิรภัย โดยสภาพของการเกิดอุบัติเหตุกรณีนี้ พบว่าเป็นเหตุรถวิ่งลงเขา จึงอาจจะมีการพัฒนาดูว่า ถนนช่วงไหนมีจุดวิกฤติ เช่น ช่วงที่อาจจะพลัดตกลงเขา หรือจุดที่เป็นเหว อาจจะพิจารณาใช้แท่งคอนกรีตแบริเออร์ที่มีมาตรฐานสูงกว่าปกติ ทั้งนี้ แบริเออร์ที่ใช้อยู่ก็ได้มาตรฐานอยู่แล้ว แต่สามารถพัฒนาให้มีความปลอดภัยมากขึ้นได้ และการรณรงค์คาดเข็มขัดนิรภัย พบว่าผู้โดยสารสองคนที่คาดเข็มขัดนิรภัยรอดชีวิต ทำให้ปลอดภัย ไม่กระเด็นออกมา แต่ก็พบว่า มีหลายคนที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยแต่ก็ปลอดภัยเหมือนกัน แต่ในส่วนของคณะทำงานยังเน้นเรื่องการรณรงค์คาดเข็มขัดนิรภัย



นอกจากนี้ เห็นว่า คนขับต้องมีทักษะในการขับขี่ โดยเฉพาะลงเขา ระยะทางยาว  ไม่ควรใช้ความเร็ว ใช้เกียร์ต่ำ ไม่ควรเบรกบ่อยๆ ควรจะมีการอบรมผู้ขับขี่ขณะเกิดเหตุฉุกเฉินว่าควรจะควบคุมรถอย่างไรถึงจะปลอดภัย หากคนขับมีสติ ผู้โดยสารก็จะปลอดภัยด้วย



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X