เว็บไซต์แชนเนล นิวส์ เอเชียของสิงคโปร์ รายงานว่าชาวมุสลิมในมาเลเซีย,อินโดนีเซียและประเทศไทย ได้จัดให้มีการประท้วงที่หน้าสถานทูตเมียนมาร์ประจำประเทศทั้ง 3 ในวันนี้ เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาร์ยุติการใช้ความรุนแรงกดขี่ชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตกของเมียนมาร์ เหตุรุนแรงในเมียนมาร์ มีชาวโรฮิงญาเสียชีวิตแล้ว 86 ศพและอีกราว 3 หมื่นคนไร้ที่อยู่อาศัย เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเมียนมาร์ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศต่อสตรีชาวโรฮิงญาหลายคน
สำหรับการประท้วงในกรุงกัวลาลัมเปอร์ องค์กรเอ็นจีโอของมาเลเซียได้เข้าร่วมกับชาวโรฮิงญาหลายร้อยคน ขณะเดียวกันในกรุงจาการ์ตา ผู้ประท้วงได้ชุมนุมกันที่บริเวณหน้าสถานทูตเมียนมาร์ เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาร์ยุติการใช้ความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา ผู้ร่วมประท้วงครั้งนี้รวมถึงนายราฟี อิสมาอิล ผู้นำชุมชนมุสลิมซึ่งบอกกับนักข่าวว่าสมาชิก 17 คนในครอบครัวของเขาถูกสังหารหมู่ในรัฐยะไข่
ส่วนในกรุงเทพฯ ตัวแทนองค์กรมุสลิม 20 องค์กรได้ยื่นหนังสือประท้วงต่อเจ้าหน้าที่สถานทูต เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาร์ยุติการใช้ความรุนแรงต่อชาวมุสลิมเช่นกัน เหตุรุนแรงล่าสุดนี้นับว่ารุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุชุมชนชาวโรฮิงญายกพวกปะทะกับชุมชนชาวพุทธในรัฐยะไข่เมื่อปี 2555 มีคนเสียชีวิตหลายร้อยศพ
นอกจากนี้เหตุรุนแรงในรัฐยะไข่ ทำให้ชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนหลบหนีเข้าไปในบังกลาเทศ และเพื่อนบ้านอีกหลายประเทศและนับเป็นปัญหาใหญ่ที่นางอองซาน ซูจี ผู้คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและรัฐบาลชุดใหม่ของเมียนมาร์จะต้องเร่งหาทางแก้ไขโดยเร็ว หลังการเข้ามาบริหารประเทศเมื่อปีก่อนด้วยการให้คำมั่นว่าจะสร้างความปรองดองแห่งชาติขึ้นมาในประเทศ
ทีมต่างประเทศ
CR:AP,AChannelNewsAsia