เรือโทสมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงการนัดสั่งคดีครั้งแรกรถยนต์เบนซ์โบราณ คันหมายเลขทะบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ในความครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญญมหาเถร ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่มีพระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ หรือพระธนกิจ สุภาโว ( ธนกิจ ศรีอุ่นเรือน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ และเอกชนประกอบกิจการอู่รถ กับชิ้นส่วนรถโบราณ ตกเป็นผู้ต้องหา ว่า ได้รับแจ้งจากคณะทำงานอัยการคดีพิเศษที่รับผิดชอบสำนวนคดีว่าไดัให้พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ) สอบสวนเพิ่มเติม ดังนั้นจึงมีเหตุจำเป็นที่จะต้องเลื่อนนัดสั่งคดีออกไปก่อน โดยคณะทำงานอัยการ นัดฟังคำสั่งทางคดีอีกครั้งในเช้า วันที่ 7 ธ.ค.นี้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง จึงขอชี้แจงว่า สำนวนคดีรถยนต์โบราณนี้ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ไม่ได้ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา คงมีเพียงพระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ กับเอกชน รวม 7 ราย ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอที่ส่งมาให้อัยการพิจารณา
สำหรับผู้ต้องหากลุ่มเอกชนนั้น มี 1 รายที่อยู่ระหว่างครบการฝากขังครั้งที่ 3 คือ นายเกษม หรือ อ๊อด ภวังคนันท์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) ผู้ต้องหาที่ 4 วันนี้ ( 25 พ.ย.)อัยการ จะยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 4 อีกเป็นเวลา 12 วัน ต่อศาลอาญา ในการส่งสำนวนให้อัยการเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา พระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ ผู้ต้องหาที่ 7 ได้อาพาธ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ยังไม่ได้นำตัวมาส่งให้อัยการ โดยจะมีการประสานส่งตัวในภายหลัง