ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างโฆษกระทรวงสาธารณสุขประจำรัฐวิคตอเรีย ทางภาคใต้ของออสเตรเลียว่า สภาพอากาศแปรปรวนคือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนเจ็บป่วยจากโรคหอบหืด เบื้องต้นมีคนเสียชีวิตแล้ว 4 ศพและผู้ป่วยมีอาการรุนแรง อีก3 ราย ก่อนหน้านี้ ประชาชนหลายพันคนในรัฐวิคตอเรียต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันจันทร์ หลังมีปัญหาระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะอาการหอบหืด
รถพยาบาลฉุกเฉินของรัฐวิคตอเรียได้รับโทร.แจ้งเหตุฉุกเฉินกว่า 1,900 สายหรือเฉลี่ยหนึ่งสายต่อ 4-5 วินาที เมื่อวันจันทร์ หน่วยงานท้องถิ่นได้ส่งรถพยาบาลฉุกเฉินราว 60 คัน ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยกระจายไปยังจุดต่างๆที่ได้รับแจ้งเหตุเพื่อดูแลผู้ป่วยในเบื้องต้น ด้านนายโรบิน อูลด์ ซีอีโอมูลนิธิผู้ป่วยโรคหอบหืดของออสเตรเลีย กล่าวว่าโรคหอบหืดประเภทนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนองในช่วงที่มีละอองเกสรหญ้าไรย์ในปริมาณมากผิดปกติ
นายอูลด์กล่าวว่าเมื่อเกิดพายุในวันที่มีละอองเกสรหญ้าไรย์สูงมากกว่าปกติและอากาศชื้น เมื่อพายุพัดเข้ามา หญ้าไรย์ที่ดูดซับน้ำในสภาพอากาศชื้น ละอองเกสรจะแตกตัวออกเป็นชิ้นเล็กๆหลายพันชิ้นปลิวไปในอากาศเมื่อเกิดพายุคะนองกระจาย ระบุว่าเมื่อหายใจเข้าไป โดยปกติขนจมูกของคนเราจะช่วยกรองอากาศในระดับหนึ่ง แต่หากเล็ดลอดเข้าไปจะเข้าไปสะสมอยู่ในปอด โรคหอบหืด มีอาการอักเสบและน้ำมูกไหล ทำให้หายใจลำบาก โดยทั่วไปละอองเกสรหญ้าไรย์ในออสเตรเลียจะมีปริมาณสูงสุดในช่วงท้ายๆของฤดูใบไม้ผลิเช่นในช่วงนี้