+++สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ในมหาสมุทรแปซิฟิกนอกชายฝั่งจังหวัดฟุคุชิมะทางตอนกลางของญี่ปุ่น เมื่อเวลา 06.23 น. วันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 04.23 น. ตามเวลาประเทศไทย ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังไม่มีการประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ ขณะที่บริษัทเทปโก ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ เปิดเผยว่า ไม่พบความผิดปกติ ขณะที่ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (เจเอ็มเอ) ระบุระดับความรุนแรงไว้ที่ขนาด 6.1 ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่ในบริเวณเดียวกับที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.4 เมื่อวันอังคาร
+++หลังจากที่ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า คณะทำงานอัยการได้พิจารณาผลการสอบสวนเพิ่มเติมจากพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในคดีทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และได้มีคำสั่งฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ เรือนจำกลางบางขวาง ผู้ต้องหาที่ 1 นางศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ฯคลองจั่น ผู้ต้องหาที่ 3 และ นางทองพิน กันล้อม อดีตรองประธาน สหกรณ์ฯ คลองจั่น ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานสมคบกันฟอกเงิน ซึ่งอัยการนัดให้ผู้ต้องหากลุ่มนี้ที่พนักงานสอบสวนได้ส่งตัวมา ให้อัยการแล้ว มาฟังคำสั่งคดีในวันที่ 30 พ.ย.เพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป นอกจากนี้ อัยการยังเห็นควรสั่งฟ้องพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาที่สอง และ น.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจร ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสอง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ยังไม่ได้ส่งตัวให้อัยการ จึงแจ้งให้อธิบดีดีเอสไอติดตามตัวพระธัมมชโยและ น.ส.ศศิธร มาให้อัยการเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนก่อนขาดอายุความ 15 ปี
+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ดีเอสไอต้องดำเนินการให้ได้ตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาส่งฟ้องตามที่อัยการสั่งคดี หากอัยการส่งหนังสือมาเมื่อใด ดีเอสไอก็พร้อมเข้าจับกุมพระธัมมชโย ทันที โดยเตรียมประสาน ตำรวจ ทหาร เพื่อสนธิกำลังเข้าจับกุม ส่วนแผนปฏิบัติการได้ทำไว้หมดแล้ว
+++นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักการสอบสวน กล่าวว่า การดำเนินคดีกับพระธัมมชโยและ น.ส.ศศิธร อัยการจะต้องได้ตัวผู้ต้องหาก่อนจึงจะส่งฟ้องต่อศาลดำเนินคดีได้ ซึ่งดีเอสไอ จะต้องนำตัวมาภายในระยะเวลาของอายุความ 15 ปี
+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ 100% ว่าพระธัมมชโยอยู่ในวัดพระธรรมกาย แต่ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รรท.ผบก.ส.4 ตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูลแล้ว
+++นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า พระธัมมชโยยังพักรักษาอาการอาพาธอยู่ภายในวัด ประกอบกับพระธัมมชโยไม่มีหนังสือเดินทาง เนื่องจากไม่ได้ไปต่ออายุ จึงไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ และหากออกนอกประเทศจริง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดรอดสายตาของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คณะศิษย์จะขอหารือก่อนถึงคดีที่พระธัมมชโย ถูกฟ้อง แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
+++กรณีสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลียให้ข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่ามีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือไอเอส ผ่านทางเฟซบุ๊ก มีบางส่วนเกี่ยวข้องทั้งการสนับสนุนแนวคิดการเดินทางไปซีเรีย และให้เงินสนับสนุน พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันยังไม่มีกลุ่มไอเอสเคลื่อนไหวในประเทศไทย แต่กำลังตรวจสอบว่า 1 แสนยูสเซอร์ เข้าไปเกี่ยวข้องลักษณะใดบ้าง เพื่อจุดประสงค์ใด ที่แจ้งว่าพบการใช้งานในประเทศไทยนั้น ต้องตรวจสอบให้ชัดด้วยว่าผู้ใช้เป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติกันแน่ อาจเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้ในไทยก็ได้ รวมทั้งคัดกรองจำแนกยูสเซอร์ต้องสงสัยเป็นกลุ่มๆ 6 กลุ่มตามที่ออสเตรเลียให้ข้อมูลมา สำหรับกรณีที่มีการระบุว่าพบการเดินทางไปกลับไทย-ซีเรีย ของกลุ่มที่อาจเข้าข่ายต้องสงสัย เป็นการตรวจสอบตามปกติ รวมทั้งการตรวจสอบคนไทยและนักศึกษา ที่เดินทางไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกบ่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เดินทางไปซีเรีย หรือกลุ่มประเทศตะวันออกจะเป็นบุคคลต้องสงสัย
+++ จากกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์ บขส.หมายเลขทะเบียน 32-1488 กรุงเทพมหานคร ตกเขาพลึงบริเวณบ้านเขาพลึง หมู่ 9 ต.บ้านด่านนาขาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ ทางหลวงหมายเลข 11 อุตรดิตถ์-เด่นชัย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ และบาดเจ็บ 20 คน ที่โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ ญาติผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ทยอยนำหลักฐานมาติดต่อขอเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ และรับศพผู้เสียชีวิต
+++พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนอายัดตัวนายอุดม สมมาตร พนักงานขับรถคนที่ 2 ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ มีอาการแขนและขาหัก ไหปลาร้าหัก กระดูกคอเคลื่อน ยังไม่สามารถให้ปากคำได้ ส่วนผู้โดยสาร 20 คน ที่ได้รับบาดเจ็บอาการปลอดภัยแล้ว
+++นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าถนนที่เกิดอุบัติเหตุมีสภาพดี ดังนั้นต้องตรวจสอบสภาพคนขับรถ เครื่องยนต์ และอื่นๆ ว่าเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้หรือไม่ สั่งให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท สำรวจเส้นทาง สภาพกายภาพของถนนทุกจุดที่ขึ้นลงเขาทั่วประเทศที่เป็นจุดเสี่ยง เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ให้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เข้มงวดเรื่องมาตรฐานการเดินรถเทียบเท่ากับมาตรการด้านการบิน โดยกำหนดชั่วโมงการขับขี่ว่าแต่ละสัปดาห์ต้องมีชั่วโมงขับรถไม่เกินเท่าใด เหมือนกับการจำกัดชั่วโมงการบินของนักบิน เพื่อให้ผู้ขับขี่พักผ่อนเพียงพอ ปัจจุบันมีข้อกำหนดเฉพาะกำหนดเวลาการพักรถระหว่างวันเท่านั้น โดยทุกๆ 4 ชั่วโมง ผู้ขับขี่จะต้องจอดพักรถ 30 นาที ต่อไปอาจกำหนดเป็นรายสัปดาห์ว่าคนขับรถจะขับรถได้กี่ชั่วโมง ขณะเดียวกันต้องคุมเข้มเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัย โดยบัสโฮสเตสต้องแจ้งให้ผู้โดยสารได้รับทราบ ถ้าไม่คาดเข็มขัดก็ไม่สามารถนำรถออกได้
+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 47.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 48.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงาน ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 พ.ย.
+++ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 59.31 จุด ปิดที่ 19,083.18 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.78 จุด ปิดที่ 2,204.72 จุด สวนทางกับแนสแดค ลดลง 5.67 จุด ปิดที่ 5,380.68 จุด แนสแดค ถูกฉุดโดยกลุ่มเทคโนโลยี แอปเปิล อะเมซอน ไมโครซอฟต์ และอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล ต่างปิดลบถ้วนหน้า
+++กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดีดตัวขึ้นในเดือนตุลาคม โดยพุ่งขึ้นร้อยละ 4.8 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 หลังจากปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.4 ในเดือนกันยายน
+++เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เป็นผลมาจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สดใส ฉุดให้ราคาทองคำ ปิดระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 21.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,189.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++มาตรการรัฐบาลที่เพิ่มรายได้ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลบริหารประเทศโดยมองทุกมิติ จึงออกมาตรการนี้ควบคู่กับมาตรการทางเศรษฐกิจอื่น เช่น การลงทุน การเก็บภาษี แม้ขณะนี้เศรษฐกิจอยู่ในระดับที่น่าพอใจแต่ยังคงเปราะบาง อาจส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อย จึงต้องการเพิ่มรายได้ให้ครอบคลุมหลังช่วยเหลือเกษตรกรไปก่อนหน้านี้ นายกฯย้ำชัดเจนว่าเป็นเพียงมาตรการชั่วคราวให้ครั้งเดียวแล้วจบ จะช่วยกระตุ้นการบริโภคทำให้เงินหมุนเวียน มาตรการที่ออกมาแตกต่างจากประชานิยมในอดีต
+++การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไปของรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าได้หารือกับนายกฯและคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงแนวทางการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะต่อไปของรัฐบาลว่า ต้องมีความต่อเนื่องจากปัจจุบันไปจนถึงปีงบประมาณ 2561 โดยเน้นการสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ที่ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อสร้างการเติบโตที่สมดุล (Balance Growth) คือการพึ่งพาเศรษฐกิจได้ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้การจัดสรรงบประมาณเป็นเครื่องมือ
+++จากการหารือกับนายกฯ แบ่งการจัดทำโครงการ 3 ส่วน ดึงงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆ ที่ทำโครงการขนาดไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ไม่สามารถ เบิกจ่ายได้ภายในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ซึ่ง ครม.มีมติให้เรียกคืนงบส่วนนี้ เพื่อนำไปจัดสรรใหม่และทำโครงการใหม่ โดยนำงบที่เรียกคืนส่วนนี้รวมกับงบประมาณกลุ่มจังหวัดที่จะจัดสรรเพิ่ม เพื่อนำไปทำโครงการสนับสนุนการเข้มแข็งของชุมชน งบประมาณเพิ่มเติมที่จะจัดสรรลงไปให้กับกลุ่มจังหวัดและท้องถิ่นช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.2560 ถือว่าเป็นช่วงรอยต่อระหว่างปีงบประมาณ 2560 -2561 นายกฯ อยากให้จัดทำงบประมาณส่วนนี้ ให้เกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจฐานราก และเชื่อมโยงกับการสร้างความเข้มแข็งจากภายในให้กลุ่มจังหวัดเป็นหัวใจหลักในการวางกลยุทธ์ และการจัดทำงบประมาณปี 2561 มีการปรับรูปแบบการจัดทำงบประมาณไปพอสมควร โดยใช้กลไกของกลุ่มจังหวัด และท้องถิ่นเข้ามามีส่วนกำหนดและวางแผนงบประมาณมากขึ้นจากเดิม ที่เป็นการกำหนดงบประมาณจากส่วนกลางเท่านั้น เป็นการแก้ปัญหาที่โครงการในกลุ่มจังหวัด ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะได้รับจัดสรรงบประมาณน้อยเกินไป และจะประชุมร่วมกับทุกฝ่ายภายในเดือนนี้
แฟ้มภาพ